หนุ่ม 39 พ้นคุกไปบวชเป็นพระ ยังตระเวนลักทรัพย์ไปทั่ว รับใบสั่งชาวลาว บุกขโมยกระบะถึงในบ้าน ขับหนีข้ามจังหวัด ก่อนจนมุม
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เมื่อวันที่ 8 ก.พ. 2564 พ.ต.อ.มังกร กวีกรณ์ ผกก.สภ.เมืองยโสธร สอบปากคำนายชนหฤทัย สารทอง อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31 หมู่ที่ 4 ต.สะพุง อ.ศรีรัตนะ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นคนร้ายที่แอบขโมยรถกระบะโตโยต้ารุ่นวีโว่ ป้ายแดง แต่สวมทะเบียนปลอม ติดเฉพาะด้านหลัง 9 กท 9999 กรุงเทพมหานคร หลบหนีจาก จ.ศรีสะเกษ และเปลี่ยนป้ายทะเบียนระหว่างทางหลบหนีมาโดนตำรวจชุดสายสืบ สภ.เมืองยโสธร สกัดจับได้หลังจากขี่รถวนไปถนนอรุณประเสริฐ เส้นทางจาก จ.ยโสธร ไป จ.อำนาจเจริญ
จากการสอบสวนทราบว่า นายชนหฤทัยเคยติดคุกมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกคดีพยายามฆ่า ครั้งที่ 2 คดีลักทรัพย์ เพิ่งพ้นโทษเมื่อวันที่ 4 ม.ค. 2564 นอกจากนี้ ยังมีหมายจับของ สภ.คลองหลวง อีก 6 คดี หลังพ้นโทษได้ไปบวชที่บ้านใน อ.ศรีรัตนะ จ.ศรีสะเกษ ขณะบวชเป็นพระยังตระเวนเข้าไปลักทรัพย์ตามบ้านเรือนต่างๆ ในตัวเมืองศรีสะเกษ
- คุกแค่พักร้อน จับหนุ่มใหญ่ เพิ่งพ้นโทษ กลางวันนอนรพ.กลางคืนตระเวนฉก
- เตรียมใจถูกจับ! หัวขโมย วัย 35 พ้นคุกมาตระเวนลักทรัพย์ บ้านตร.ยังโดน รับติดยาหนัก
- จับไอ้คิด สไปเดอร์แมน โรยตัวร้านมือถือ พ้นโทษออกมาลักพระวัดดัง จดโพยรอพวกออกคุก
ล่าสุดขโมยรถกระบะ 4 ประตู ยี่ห้อโตโยต้าวีโว่ รุ่นพรีรันเนอร์ 2.4 MID ป้ายแดง ทะเบียน ภ 2032 กรุงเทพมหานคร เป็นรถที่นายวีรภัทร ศิลาสุวรรณ อายุ 25 ปี ชาว จ.เลย จอดไว้ที่บ้านพักเจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยพืชสวนจังหวัดศรีสะเกษ เวลา 12.00 น. พบว่ารถยนต์หายไปเมื่อเวลา 15.35 น. จึงไปแจ้งความที่ สภ.เมืองศรีสะเกษ และตำรวจชุดสืบ สภ.เมืองศรีสะเกษ ได้ติดตามสัญญาณจีพีเอส ก่อนสัญญาณหายไปในช่วง อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ ขณะที่ผู้ต้องหาจอดเปลี่ยนป้ายทะเบียนปลอมใส่เฉพาะแผ่นหลังทะเบียน 9 กท 9999 กรุงเทพมหานคร และมาจับสัญญาณจีพีเอสได้อีกครั้งว่ารถคันดังกล่าวอยู่ในเขต อ.เมืองยโสธร
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งสายตรวจตำบล และชุดสืบสวน สภ.เมืองยโสธร ไปดักตามเส้นทางต่างๆ ที่เชื่อมต่อตัวเมืองยโสธรไป จ.อำนาจเจริญ และไป จ.มุกดาหาร กระทั่งพบรถต้องสงสัยวิ่งมาตามถนนสายอรุณประเสริฐ ซึ่งเป็นเส้นทางไป จ.อำนาจเจริญ คนร้ายคงตกใจเมื่อเห็นไซเรนรถตำรวจที่ไปตรวจที่เกิดเหตุคดีอุบัติเหตุรถชนกัน ทำให้คนร้ายหักพวงมาลัยรถกะทันหัน เพื่อเลี้ยวซ้ายเข้าหมู่บ้าน
ชุดสืบสวน สภ.เมืองยโสธร จึงขับรถไล่ล่าตามไปจนถึงวัดบ้านโพนสิม หมู่ที่ 5 ต.สิงห์ อ.เมืองยโสธร ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองยโสธรประมาณ 15 กิโลเมตร ก่อนที่นายชนหฤทัย สารทอง ผู้ต้องหาจะจนมุมและให้การรับสารภาพว่า นายบิ๊ก ไม่ทราบนามสกุล ซึ่งเป็นชาวลาว ติดต่อให้นำรถไปส่งที่ลานจอดรถห้างบิ๊กซี สาขา จ.นครพนม
นายชนหฤทัย ให้การต่อว่า รู้จักกับนายบิ๊กจากเพื่อนในคุกที่ธัญญบุรีให้หมายเลขโทรศัพท์ไว้ เมื่อออกมาจากคุกก็ติดต่อนายบิ๊ก จ้างให้ตนขับรถ 4 ประตูไปให้ ในราคา 50,000 บาท เมื่อนำส่งถึงที่นัดหมาย และบอกตนทำคนเดียวง่ายๆ โดยงัดประตูบ้านพักเข้าไปขโมยเอากุญแจที่ห้อยไว้ในบ้าน และขับออกมา
พ.ต.อ.มังกร กวีกรณ์ ผกก.สภ.เมืองยโสธร ได้มอบให้ พ.ต.ท.วรวุฒิ ท่านมุข รอง ผกก.สส.สภ.เมืองยโสธร ร่วมสอบปากคำบันทึกการจับกุม ร่วมกับตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ ที่เดินทางติดตามมารับผู้ต้องหาและของกลางกลับไปดำเนินคดีที่ท้องที่เกิดเหตุต่อไป