กทม. พัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวทางเรือเตรียมรับนทท.หลังโควิดคลี่คลาย
วันที่ 26 มีนาคม พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยนายศักดิ์ชัย บุญมา รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นำคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารสํานักการโยธา สํานักการระบายน้ำ สํานักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว สํานักการวางผังและพัฒนาเมือง กลุ่มกรุงธนใต้ สํานักงานประชาสัมพันธ์ กลุ่มคนรักคลองฝั่งธน และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมกิจกรรมล่องเรือจากกรุงธนบุรีศรีมหาสมุทร สู่สุดทะเลบางขุนเทียน ชมบรรยากาศสองฝั่งคลองตลอดเส้นทางการท่องเที่ยวทางเรือซึ่งกรุงเทพมหานครได้ดำเนินการพัฒนาพื้นที่และปรับปรุงภูมิทัศน์ริมคลองไปก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และคณะ ลงเรือจากท่าเรือยอดพิมาน เขตพระนคร ในเวลา 09.30 น. ล่องเรือมาตามแม่น้ำเจ้าพระยา เข้าสู่คลองบางกอกใหญ่ จากนั้นแวะชมย่านตลาดพลู เริ่มต้นการเดินทางในช่วงบ่ายเวลา โดย เวลา 13.00 น. รองผู้ว่าฯ ศักดิ์ชัย นำคณะ ล่องเรือจากท่าเรือตลาดพลูไปตามคลองสนามไชย ชมวิถีชาวบ้าน จากนั้นเข้าสู่คลองเฉลิมชัยพัฒนา เยือนถิ่นคุณกะลา เช็คอินสวนบวรประชานันท์ ล่องเรือต่อไปยังคลองขุนราชพินิจใจ ชมหลักเขต กทม. ที่ 28 และ 29 ล่องกลับสู่คลองพิทยาลงกรณ์ สิ้นสุดเส้นทางการล่องเรือและขึ้นฝั่งที่สะพานรักษ์ทะเลบางขุนเทียน ในเวลาประมาณ 17.30 น. หลังจากนั้นผู้ร่วมคณะได้ร่วมกิจกรรมเสวนาแลกเปลี่ยนมุมมอง ข้อคิด ข้อเสนอแนะการพัฒนาพื้นที่ฝั่งธนบุรี ซึ่งได้มีการเสนอให้มีการเชื่อมต่อการเดินทางให้มีความสะดวกในการท่องเที่ยวทางเรือมากยิ่งขึ้น รักษาวิถีชุมชนของแต่ละชุมชนริมคลองให้มีความเป็นเอกลักษณ์เนื่องจากเป็นเสน่ห์ในการท่องเที่ยวอีกรูปแบบหนึ่ง
รวมถึงการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนในการจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในชุมชน นอกจากนี้ยังเสนอให้ส่งเสริมการถ่ายทอดองค์ความรู้ภูมิปัญญาจากคนรุ่นหนึ่งสู่อีกรุ่นหนึ่ง ส่งเสริมการเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ ให้ชุมชนสามารถนำมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ของชุมชนและส่งเสริมการท่องเที่ยวในชุมชน ตลอดจนเสนอให้จัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวทางเรือและริมคลองอย่างต่อเนื่อง โดยใช้จุดเด่นที่มีความเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละชุมชนในการดึงดูดความสนใจให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวเพิ่มมากขึ้น พร้อมทั้งช่วยกันรักษาความสะอาดทิ้งขยะให้ถูกที่ ไม่ทิ้งขยะของเสียลงคลอง ช่วยกันดูแลรักษาแม่น้ำ คู คลองต่างๆ ให้มีความสะอาด สวยงาม ซึ่งกรุงเทพมหานครและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะนำไปเป็นแนวทางในการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวทางเรือที่มีความเหมาะสมกับแต่ละเส้นทางและแต่ละชุมชนต่อไป
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพมหานคร ร่วมกับ ตัวแทนชมรมรักษ์คลองฝั่งธน โดยเชิญตัวแทนชมรมประมาณ 80-100 คน จากสมาชิก 2-3 หมื่นคน เยี่ยมชมการปรับปรุงแหล่งท่องเที่ยวทางน้ำและการสัญจรทางน้ำว่าประชาชนในอดีตเดินทางสัญจรกันอย่างไร รวมทั้งร่วมกันพิจารณาและเสนอความคิดว่าจะฟื้นฟูการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ และการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ฝั่งธนบุรี เพื่อสร้างเศรษฐกิจและรายได้ให้กับพี่น้องประชาชนสองฝั่งคลองได้อย่างไร ทั้งนี้กรุงเทพมหานครเตรียมการพัฒนาและปรับปรุงคูคลองให้สมบูรณ์ขึ้น และคาดว่าเมื่อสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติใน อีก 1-2 เดือนข้างหน้า จะมีนักเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อย
ทั้งนี้เนื่องจากในอดีตยังมีถนนไม่มาก ประชาชนต้องใช้เรือและการเดินทางทางน้ำเพื่อการค้าขาย ท่องเที่ยวจนกรุงเทพฯ ได้รับฉายาว่า เวนิสตะวันออก ปัจจุบันวิถีชีวิตแบบนี้เลือนหายไป กรุงเทพมหานครจึงฟื้นฟูการเดินทางทางเรือขึ้นมาอีกครั้ง และเชื่อมต่อการเดินทาง ล้อ ราง เรือ อำนวยความสะดวดให้แก่ประชาชน เชื่อมการเดินทาง วงเวียนใหญ่-มหาชัย รวมทั้งได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประชาชนริมฝั่งคลองพัฒนาให้เกิดการท่องเที่ยวทางน้ำ การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ชมประเพณีโบราณเก่าๆ ศาสนาสถานต่างๆ ทั้ง พุธ คริสต์ อิสลาม เช่น วัดปากน้ำภาษีเจริญ กรุงเทพมหานครได้มีการเข้ามาปรับปรุงภูมิทัศน์และจัดสร้างทางต่างๆ ทั้งหมดแล้ว โดยเขตพื้นที่ได้ร่วมกันกันดำเนินการมาเป็นเวลากว่า 2 เดือน
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้กรุงเทพมหานครกำลังซ่อมแซมท่าเรือตลาดพลูคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน พ.ค. นี้ จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยวหันมาเที่ยวทางน้ำกันให้มากขึ้น ทั้งนี้ในอนาคตจะส่งเสริมให้มีการใช้เรือไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะสามารถลดมลภาวะทางเสียงและอากาศด้วย โดยขณะนี้กรุงเทพมหานครได้นำเรือไฟฟ้ามาให้บริการที่คลองผดุงกรุงเกษม และจะนำไปใช้ที่คลองแสบแสบช่วงต่อขยายวัดศรีบุญเรือง – มีนบุรี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างซ่อมแซมท่าเรือในคลองดังกล่าวคาดว่าจะเปิดใช้ประมาณเดือนมิถุนายนนี้ สำหรับคลองฝั่งธนบุรี หากจะนำเรือไฟฟ้ามาให้บริการจะต้องพิจารณาดูความเหมาะสมว่าจะใช้เรือขนาดใด อย่างไรก็ตามในการนำเรือมาให้บริการประชาชนนั้นกรุงเทพมหานครไม่ได้หวังผลกำไร แต่อยากจะอยากเชิญชวนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติให้มาท่องเที่ยวทางน้ำมากขึ้น เพราะมีวิถีชาวบ้านริมคลองที่ความสวยงามและมีสถานที่ต่างๆ ให้เยี่ยมชมมากมาย
ด้านรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า สืบเนื่องจากนโยบายของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในการส่งเสริมการท่องเที่ยวจากในเมืองออกไปสู่นอกเมือง วันนี้ได้ลงเรือที่ท่าเรือยอดพิมาน มาทางวัดกัลยาผ่านคลองบางกอกใหญ่หรือคลองบางหลวง มาจนถึงย่านตลาดพลูซึ่งเป็นย่านเก่าแก่ด้านฝั่งธนบุรีที่กรุงเทพมหานครมีแนวคิดในการพัฒนาพื้นที่ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวและเป็นจุดเชื่อมต่อ ล้อ ราง เรือ จากนั้นเดินทางต่อมาทางคลองสนามไชยซึ่งเชื่อมต่อกับคลองพิทยาลงกรณ์ โดยบริเวณนี้มีสถานที่สำคัญ คือ อนุสาวรีย์คุณกะลา เป็นสถานที่อยู่ของลิงจำนวนมาก ถัดจากอนุสาวรีย์คุณกะลาจะมีสวนบวรประชานันท์สถานที่พักผ่อนที่เน้นสีสันสดใสที่ได้รับการพัฒนาในส่วนต่างๆ เพิ่มเติมเพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่ง เช่น การสร้างสะพานข้ามไปยังเกาะใกล้เคียง ถัดจากนี้ไปก็จะเป็นคลองพิทยาลงกรณ์ มีวัดหลวงพ่อเต่าซึ่งเป็นสถานที่สำคัญของฝั่งธนบุรี
จากนั้นล่องเรือต่อไปหลักเขตที่ 28 ซึ่งเป็นหลักเขตของกรุงเทพมหานครกับสมุทรปราการ และเดินทางต่อไปยังหลักเขตที่ 29 ซึ่งเป็นหลักเขตระหว่างกรุงเทพมหานครกับสมุทรสาคร ซึ่งบริเวณดังกล่าวถูกน้ำกัดเซาะพื้นที่ไปเกือบ 5 ตารางกิโลเมตร ปัจจุบันกรุงเทพมหานครได้ดำเนินการในการคืนพื้นที่ที่ถูกน้ำทะเลกัดเซาะ และมีแนวคิดพัฒนาเป็นทางจักรยานจากกรุงเทพมหานครไปเชื่อมสะพานแดงของจังหวัดสมุทรสาคร รวมถึงจับมือกับจังหวัดสมุทรปราการเพิ่มเติม แต่จะต้องมีการหารือในรายละเอียดต่างๆ กับหลายๆ ฝ่าย อาทิ แบบ งบประมาณ ซึ่งหากได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน รวมทั้งประชาชนในพื้นที่คาดว่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางเรือที่สำคัญและชื่นชอบของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติอีกหนึ่งเส้นทาง นอกจากนี้กรุงเทพมหานครจะมีการพัฒนาการท่องเที่ยวทางเรือในเส้นทางอื่นเพิ่มเติม เช่น คลองมหาสวัสดิ์ คลองภาษีเจริญ คลองบางบอน คลองทวีวัฒนา เป็นต้น