กทม.เผยตลาดในกรุงปรับปรุงลดความเสี่ยงแพร่โควิด-19 แล้วเกือบทุกแห่ง
วันนี้ (30 มีนาคม 2564) พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กรุงเทพมหานคร (ศบค.กทม.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุม ศบค.กทม. ครั้งที่ 25/2564 ที่ศาลาว่าการ กทม. (เสาชิงช้า) ว่า ที่ประชุมได้ติดตามข้อสั่งการของ ศบค.กทม. ตามที่มอบหมายให้ 50 สำนักงานเขต สำรวจตลาดที่มีหลังคาในพื้นที่ว่า เป็นตลาดที่มีระบบระบายอากาศดีหรือไม่ เพื่อปรับปรุงแก้ไข พร้อมขอความร่วมมือเจ้าของหรือผู้ประกอบการตลาดให้จัดทำผังผู้ค้า และจัดทำข้อมูลผู้ค้า และลูกจ้างแผงค้า โดยผลการสำรวจตลาด
กลุ่มเขตกรุงเทพเหนือ มีตลาดที่มีหลังคา 43 แห่ง ทุกแห่งมีระบบระบายอากาศดี ตลาดที่จัดทำผังผู้ค้าข้อมูลผู้ค้าลูกจ้างแผงค้าแล้ว 28 แห่ง อยู่ระหว่างดำเนินการจัดทำผังและข้อมูลผู้ค้า 15 แห่ง
กลุ่มเขตกรุงเทพกลาง มีตลาดที่มีหลังคา 29 แห่ง ทุกแห่งมีระบบระบายอากาศดีและจัดทำผังผู้ค้าแล้วทุกแห่ง
กลุ่มกรุงเทพใต้ มีตลาดที่มีหลังคา 60 แห่ง ทุกแห่งมีระบบระบายอากาศดีและจัดทำผังผู้ค้าแล้วทุกแห่ง
กลุ่มกรุงเทพตะวันออก มีตลาดที่มีหลังคา 127 แห่ง ทุกแห่งมีระบบระบายอากาศดี ตลาดที่อยู่ระหว่างจัดทำผังผู้ค้า 47 แห่ง
กลุ่มกรุงธนเหนือ มีตลาดที่มีหลังคา 69 แห่ง ทุกแห่งมีระบบระบายอากาศดีและจัดทำผังผู้ค้าแล้วทุกแห่ง
กลุ่มกรุงธนใต้ มีตลาดที่มีหลังคา 80 แห่ง มีระบบระบายอากาศดี 73 แห่ง อยู่ระหว่างปรับปรุง 7 แห่ง อยู่ระหว่างจัดทำผังผู้ค้า 16 แห่ง
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้ขอให้สำนักงานเขตสำรวจสุขาภิบาลตลาด ช่องทางเข้า-ออก จุดตรวจวันอุณหภูมิ และจุดบริการแอลกอฮอล์ล้างมือ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโรคติดต่อรวมถึงโรคโควิด-19 ด้วย
รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า ในส่วนของตลาดของสำนักงานตลาดกรุงเทพมหานคร ทั้ง 12 แห่ง ได้สำรวจและปรับปรุงระบบระบายอากาศ สุขาภิบาลตลาด รวมทั้งจัดทำผังผู้ค้าและลูกจ้างแผงค้า นอกจากนี้ สำนักงานตลาดได้เข้มงวดการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 และได้ประชาสัมพันธ์เน้นย้ำพร้อมกำชับให้เข้มงวดกับผู้ค้า ผู้ประกอบการ ผู้เข้าไปใช้บริการในตลาด และผู้จัดการตลาดในการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคและมาตรการป้องกันสุขอนามัยส่วนบุคคล (D-M-H-T-T) อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการสวมหน้ากากอนามัยของผู้ค้า ลูกจ้าง ผู้บริโภคอย่างถูกต้องตลอดเวลาที่อยู่ในตลาด การเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล ให้มีจุดบริการล้างมือและแอลกอฮอล์เจลติดตั้งไว้ภายในตลาด
“นอกจากนี้ ที่ประชุมได้ให้สำนักงานเขตเร่งสำรวจประชาชนกลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีอายุระหว่าง 18-59 ปี และกลุ่มผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ที่ประสงค์จะรับการฉีดวัคซีน โดยให้สำนักงานเขตรายงานสำนักอนามัย เพื่อรวบรวมนำเสนอศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงมหาดไทย (ศบค.มท.) ต่อไป รวมทั้งให้หน่วยงานต่างๆ ของ กทม. สำรวจบุคลากรในหน่วยงานที่ประสงค์จะฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 และรายงานต่อสำนักอนามัย เพื่อรวบรวมเสนอต่อสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อนำเสนอศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) โดยสำนักอนามัยจะมีหนังสือแจ้งสำนักงานเขต เพื่อทราบแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนในเร็วๆ นี้” พล.ต.ท.โสภณ กล่าว