หอการค้าไทย หารือ กทม.เพิ่มจุดบริการฉีดวัคซีนให้ประชาชนเพิ่มเติม ขณะนี้ มีจุดให้บริการแล้ว 25 จุดในกรุงเทพฯ
วันที่ 8 พฤษภาคม 2564 พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมหารือการดำเนินการหน่วยความร่วมมือบริการวัคซีนโควิด-19 กรุงเทพมหานคร-สภาหอการค้าไทย นอกโรงพยาบาล โดยมี พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย ดร.กฤษณะ วจีไกรลาศ กรรมการเลขาธิการหอการค้าไทย ผู้บริหารสภาหอการค้าไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า)
ตามที่กรุงเทพมหานครร่วมกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยจัดสถานที่นอกสถานพยาบาลเพื่อให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 เดิมพร้อมให้บริการ 14 แห่ง ได้แก่ SCG บางซื่อ เซ็นทรัลสาขาลาดพร้าว เดอะมอลล์บางกะปิ โรบินสันลาดกระบัง โลตัสมีนบุรี สามย่านมิตรทาวน์ True Digital Park ธัญญาพาร์ค เอเชียทีค เซ็นทรัลปิ่นเกล้า ไอคอนสยาม PTT Station พระราม 2 เดอะมอลล์บางแค และบิ๊กซีบางบอน
สภาหอการค้าไทยได้เสนอสถานที่ฉีดวัคซีนเพิ่มเติมอีก 11 แห่ง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการเตรียมพร้อมอุปกรณ์ และสำนักอนามัย กทม. จะลงพื้นที่ตรวจความพร้อมเพื่อให้เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด
ทั้งนี้ รวมสถานที่ให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 นอกโรงพยาบาลในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 25 แห่ง ศักยภาพการให้บริการฉีดวัคซีนอยู่ที่ 1,000-3,000 คน/วัน สามารถให้บริการได้ 38,000-50,000 คน/วัน เบื้องต้นทุกแห่งจะเปิดให้บริการต่อเนื่อง 7 เดือน
สำหรับในวันที่ 11 พ.ค.64 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะร่วมกันทดลองระบบ ซึ่งพร้อมให้บริการจุดแรก ณ เซ็นทรัลลาดพร้าว จากนั้นพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีจะไปร่วมตรวจความเรียบร้อยการให้บริการฉีดวัคซีนจุดแรกอย่างเป็นทางการ ณ เซ็นทรัลลาดพร้าว ในวันที่ 12 พ.ค.64 โดยจะให้บริการ 1,000 คน /วัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. กลุ่มเป้าหมายคือเจ้าหน้าที่ด่านหน้า และกลุ่มอาชีพเสี่ยง อาทิ พนักงานจัดเก็บขยะของ 50 เขต ครู ซึ่งสำนักอนามัยจะบริหารจัดการจำนวนผู้เข้ารับบริการในแต่ละวัน จากนั้นจะทยอยเปิดเพิ่มเติมในจุดอื่นๆต่อไป
นอกจากนี้ ที่ประชุมเห็นชอบให้บุคลากรด่านหน้าที่ต้องปฏิบัติงานในการดูแลป้องกันโรคเข้ารับการวัคซีนก่อน รวมทั้งครูซึ่งต้องทำงานใกล้ชิดกับเด็ก ซึ่งในพื้นที่กทม.มีครูทุกสังกัดรวม ทั้งระดับปฐมวัย ประถมศึกษา มัธยมศึกษา อาชีวศึกษา กว่า 1.6 แสนคน หากครบถ้วนจะให้บริการฉีดให้แก่ประชาชนกลุ่มเสี่ยง 7 โรค และผู้สูงอายุต่อไป
รวมทั้งให้สำนักอนามัยและสำนักการแพทย์เตรียมพร้อมระบบการแพทย์ฉุกเฉินเพื่อรองรับการให้บริการประชาชนจำนวนมากและการจัดการขยะติดเชื้อให้เรียบร้อย
ขณะที่ นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย เปิดเผยว่า หอการค้าไทยได้หารือร่วมกับพลตำรวจเอก อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการเตรียมความพร้อมด้านสถานที่ฉีดวัคซีนของภาคเอกชน หรือ “หน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนโควิด- 19 กรุงเทพมหานคร-หอการค้าไทย” เพื่อให้สามารถให้บริการฉีดวัคซีนแก่ประชาชนได้ในสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ ได้พิจารณาเพิ่มสถานที่จากเดิม 14 จุด เป็น 25 จุด เพื่อให้ประชาชนได้รับวัคซีนอย่างทั่วถึงโดยเร็วที่สุด โดยได้มีการประสานงานกับโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว 14 จุด และอยู่ระหว่างประสานงานอีก 11 จุด โดยมี Model ต้นแบบ คือ เซ็นทรัลลาดพร้าว สามย่านมิตรทาวน์ และเดอะมอลล์ บางกะปิ ซึ่งเซ็นทรัลลาดพร้าวร่วมมือกับโรงพยาบาลรามาธิบดี สามย่านมิตรทาวน์ร่วมมือกับโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และเดอะมอลล์ บางกะปิร่วมมือกับโรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานี
สำหรับสถานที่ที่ได้รับการพิจารณาให้เป็นหน่วยฉีดวัคซีนในพื้นที่ กทม. เพิ่มเติมมีทั้งสิ้น 11 จุด ซึ่งรวมทั้งหมด 25 จุด จะสามารถรองรับประชาชนได้สูงสุดวันละ 50,000 คนต่อวัน
นอกจากนี้ นายสนั่น อังอุบลกุล ยังได้มอบเครื่องคอมพิวเตอร์และปริ๊นเตอร์ สำหรับใช้สนับสนุน สถานที่ให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับกรุงเทพมหานคร รวมมูลค่า 350,000 บาท โดยผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเป็นผู้รับมอบ ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า)