ศบค.เจอ 5 คลัสเตอร์ใหม่ กทม.ยังป่วยใหม่เกิน 4 พันราย ดับสูงสุด 99 ราย สิ้นใจที่บ้าน 4 ราย พบที่สมุทรปราการและสงขลา ภาพรวม 45 จังหวัดยังป่วยเกินร้อย
เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด
เมื่อวันที่ 7 ส.ค. ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) เปิดเผยข้อมูลสถานการณ์โรคโควิด 19 ประจำวัน ว่า วันนี้ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 21,838 ราย สะสม 736,522 ราย รักษาหาย 21,108 ราย หายสะสม 517,012 ราย เสียชีวิต 212 ราย สะสม 6,066 ราย ยังรักษาอยู่ 213,444 ราย อยู่ใน รพ. 78,773 ราย รพ.สนามและอื่นๆ 134,671 ราย อาการหนัก 5,159 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 1,060 ราย มีการฉีดวัคซีนเพิ่มเมื่อวันที่ 2 ส.ค. 647,571 โดส รวมสะสม 20,280,108 โดส เป็นเข็มแรก 15,687,291 ราย เข็มสอง 4,406,723 ราย และเข็มสาม 186,094 ราย
ทั้งนี้ ผู้ติดเชื้อ 21,838 ราย แบ่งเป็นการติดเชื้อในประเทศ 20,911 ราย โดยสัดส่วนมาจาก 67 จังหวัดรวมกันสูงสุด 11,083 ราย กทม.และปริมณฑล 9,015 ราย และ 4 จังหวัดภาคใต้ 813 ราย , มาจากเรือนจำ 923 ราย และผู้ติดเชื้อเดินทางมาจากต่างประเทศมี 4 ราย ได้แก่ ตุรกี 1 ราย มาเลเซีย 1 ราย และเมียนมา 2 ราย เข้ามาช่องทางธรรมชาติทั้งหมด
ผู้เสียชีวิต 212 ราย มาจาก 37 จังหวัด ได้แก่ กทม. 99 ราย สมุทรปราการ 23 ราย สมุทรสาคร และชลบุรี จังหวัดละ 10 ราย ปทุมธานี 7 ราย ปัตตานี สงขลา จังหวัดละ 5 ราย อ่างทอง 4 ราย นนทบุรี นครปฐม นราธิวาส อุดรธานี อุบลราชธานี กำแพงเพชร นครสวรรค์ จังหวัดละ 3 ราย ระนอง สตูล ขอนแก่น ฉะเชิงเทรา นครนายก ปราจีนบุรี จังหวัดละ 2 ราย และนครศรีธรรมราช ชัยภูมิ ยโสธร ศรีสะเกษ สกลนคร อำนาจเจริญ ลำปาง เพชรบูรณ์ อุตรดิตถ์ ชัยนาท ตาก เพชรบุรี ตราด ระยอง สระแก้ว และสิงห์บุรี จังหวัดละ 1 ราย
ผู้เสียชีวิตเป็นชาย 116 ราย หญิง 96 ราย อายุ 31-97 ปี ค่ากลางอายุ 67 ปี โดยเป็นผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป 67% อายุต่ำกว่า 60 ปี มีโรคเรื้อรัง 26% ไม่มีโรคเรื้อรัง 6% พบหญิงตั้งครรภ์เสียชีวิต 2 ราย คิดเป็น 1% จาก สมุทรสาคร และนราธิวาส มีการนอนใน รพ.นานสุดก่อนเสียชีวิต 38 วัน เฉลี่ย 10 วัน พบการเสียชีวิตที่บ้าน 4 ราย จากสมุทรปราการ 3 รายและสงขลา 1 ราย
สำหรับจังหวัดที่ติดเชื้อเกิน 100 ราย พบสูงขึ้นรวมถึง 45 จังหวัด โดย 10 จังหวัดรายงานติดเชื้อสูงสุด ได้แก่ 1.กทม. 4,221 ราย สะสม 178,910 ราย 2.สมุทรปราการ 1,428 ราย สะสม 46,954 ราย 3.ชลบุรี 1,418 ราย สะสม 34,859 ราย 4.สมุทรสาคร 1,372 ราย สะสม 39,601 ราย 5.นครปฐม 781 ราย สะสม 15,369 ราย 6.นนทบุรี 699 ราย สะสม 29,066 ราย 7.สระบุรี 595 ราย สะสม 9,419 ราย 8.ปทุมธานี 514 ราย สะสม 22,638 ราย 9.ฉะเชิงเทรา 448 ราย สะสม 13,484 ราย และ 10.อุบลราชธานี 396 ราย สะสม 7,352 ราย
ส่วนอีก 35 จังหวัด ได้แก่ กำแพงเพชร 114 ราย, นครนายก 162 ราย, นครสวรรค์ 195 ราย , พระนครศรีอยุธยา 367 ราย, พิจิตร 125 ราย, ลพบุรี 199 ราย, สมุทรสงคราม 172 ราย, สุโขทัย 120 ราย , สุพรรณบุรี 229 ราย, อ่างทอง 235 ราย, ปราจีนบุรี 142 ราย, ระยอง 251 ราย, สระแก้ว 208 ราย, กาฬสินธุ์ 283 ราย, ขอนแก่น 219 ราย, ชัยภูมิ 255 ราย,
นครราชสีมา 220 ราย, บุรีรัมย์ 246 ราย, มหาสารคาม 271 ราย, ยโสธร 139 ราย, ร้อยเอ็ด 224 ราย, ศรีสะเกษ 335 ราย , สกลนคร 207 ราย, สุรินทร์ 311 ราย, อุดรธานี 287 ราย, กาญจนบุรี 196 ราย, ตาก 139 ราย, ประจวบคีรีขันธ์ 112 ราย, เพชรบุรี 143 ราย, ราชบุรี 262 ราย, ชุมพร 107 ราย, นราธิวาส 185 ราย, ปัตตานี 298 ราย , สงขลา 251 ราย และสุราษฎร์ธานี 161 ราย
สำหรับคลัสเตอร์ใหม่วันนี้ ได้แก่ 1.สมุทรปราการ คลัสเตอร์ ได้แก่ บริษัทของใช้ในบ้าน อ.เมือง 18 ราย และบริษัทอาหารแช่แข็ง อ.บางพลี 11 ราย 2.ชลบุรี โรงงานพ่นสี อ.บ้านบึง 19 ราย 3.นครปฐม บริษัทผลิตภัณฑ์อาหาร อ.บางเลน 14 ราย และ 4.นนทบุรี โรงงานเสื้อผ้า อ.เมือง 9 ราย