จากกระแสข่าวในโลกออนไลน์ ที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึง วัคซีนไฟเซอร์ ที่อ.แม่สอด จ.ตาก หายไป รวมถึงกรณีข่าวที่กระทรวงสาธารณสุข ส่งวัคซีนไฟเซอร์ไปไว้ที่ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ที่มีนพ.ยง ภู่วรวรรณ เป็นหัวหน้าทีมนั้น กระทรวงสาธารณสุขโดย นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ได้ออกมาชี้แจงผ่านการแถลงข่าวของกระทรวงสาธารณสุข ว่า สำหรับกระแสข่าววัคซีนไฟเซอร์ที่อ.แม่สอด จ.ตาก หายไป ขอเรียนว่าไม่เป็นความจริงซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าวัคซีนไฟเซอร์ดังกล่าวทั้งหมดจำนวน 4,320 โดส ได้ทำการจัดส่งไปที่โรงพยาบาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จ.ตาก ในวันที่ 6 สิงหาคม เวลา 15.00 น. ซึ่งการจัดส่งวัคซีนไฟเซอร์จำเป็นที่จะต้องส่งไปยังโรงพยาบาลประจำจังหวัดหรือโรงพยาบาลขนาดใหญ่เพื่อทำการจัดเก็บให้เหมาะสมและคงไว้ซึ่งสภาพของวัคซีนชนิดmRNA
ซึ่งวัคซีนจำนวนดังกล่าวยังอยู่ครบตามจำนวนในการจัดสรรและอยู่ในสภาพสมบูรณ์เรียบร้อยดีและพร้อมที่จะนำออกมาฉีดให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าในวันนี้ (7 ส.ค) จึงขอยืนยันว่ากระแสข่าวดังกล่าวเป็นข่าวปลอมไม่เป็นความจริง ซึ่งการจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์จะมีการดูแลและการตรวจสอบเป็นอย่างดี
ส่วนกรณีกระแสข่าวส.ธทำการส่งวัคซีนไฟเซอร์ ให้ ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ที่มีนพ.ยง ภู่วรวรรณ เป็นหัวหน้าทีมนั้น จากการตรวจสอบพบว่ากรณีดังกล่าวไม่เป็นความจริงเช่นเดียวกัน ต้องเรียนให้ทราบว่าวัคซีนไฟเซอร์ 1.5 ล้าน โดส ล็อตนี้มีกลุ่มเป้าหมายที่สำคัญคือบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าทุกคน รวมไปถึงนักศึกษาชั้นคลินิก นักศึกษาแพทย์ นักศึกษาพยาบาลหรือแม้กระทั่งวิชาชีพอื่น ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีโอกาสสัมผัสผู้ป่วยโควิด-19 จากการปฎิบัติหน้าที่ดูแลผู้ป่วย หรือกลุ่มอาชีพอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับ โควิด-19 โดยตรงซึ่งข่าวดังกล่าวเป็นข่าวที่มีความคลาดเคลื่อน
โดยวัคซีนไฟเซอร์จะถูกจัดสรรไปที่สำนักอนามัยกรุงเทพมหานคร เพื่อที่จะรอการจัดสรร ซึ่งศูนย์แห่งนี้มีรายชื่อผู้ที่ฉีดวัคซีนซิโนแวก 2 เข็มแล้วเพียง 20 คน เท่านั้น ประกอบกับบุคลากรในศูนย์ดังกล่าวมีผู้ที่ได้รับการฉีดบูสตอร์โดส ด้วยแอตราเซเนกร้าแล้วในจำนวนหนึ่ง ดังนั้นโควตาดังกล่าวซึ่งจึงยังอยู่ที่สำนักอนามัยของกรุงเทพมหานคร ที่รอทำการจัดสรร ให้กับหน่วยงานอื่นที่มีบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า ที่ต้องการวัคซีนไฟเซอร์
จึงขอชี้แจงว่าไม่ได้มีการส่งวัคซีนไฟเซอร์ไปที่ศูนย์เชี่ยวชาญทางด้านไวรัสวิทยา แต่อย่างใด และยังเป็นวัคซีนที่อยู่ในโควตากลาง ที่เตรียมเอาไว้เพื่อทำการจัดสรร
ทั้งนี้โควตาดังกล่าว ถูกจัดสรรเป็นโควตากลางที่จะได้รับการจัดสรรไปยังบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าที่ได้รับการรวบรวมรายชื่อเพื่อรับการฉีดวัคซีนดังกล่าว ซึ่งจะมีการกำหนดฉีดและนัดหมายต่อไป
