เนื่องจากขณะนี้อยู่ระหว่างทำแผนฟื้นฟูกิจการ ทำให้ขั้นตอนต่างๆ ต้องได้รับการอนุมัติในการจัดหารถเมล์ไฟฟ้าจากกระทรวงคมนาคม คณะกรรมการขนส่งทางบกกลาง และคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) และเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก่อน
แต่ล่าสุดดูเหมือนว่าเอกชนจะแซงหน้า ขสมก.ในการจัดหารถเมล์ไฟฟ้ามาให้บริการประชาชนไปก่อนแล้ว โดยเมื่อวันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา บริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด ผู้ให้บริการรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า ได้เปิดให้บริการรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า สาย 8 หรือสาย 2-38 ภายใต้แนวคิด “We Come To Change Fast 8 To Feel Good เรามาเพื่อเปลี่ยนความรู้สึกให้ดีขึ้น” โดย ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ได้มีการทดลองใช้รถเมล์ไฟฟ้าก่อนที่จะนำไปให้บริการด้วย
โดยกระทรวงคมนาคมมองว่า การเปลี่ยนรถขนส่งสาธารณะจากรถใช้พลังงานที่ไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มาเป็นรถที่ใช้พลังงานไฟฟ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมประเทศด้วยนวัตกรรมเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 เชื่อว่าจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น ซึ่งตามการปฏิรูปเส้นทางรถโดยสารจะมีสายทางให้บริการจำนวน 237 เส้นทาง แบ่งเป็น ผู้ประกอบการเป็นเอกชนที่มายื่นขอไลเซนส์กับ ขบ.และ ขสมก. โดยเป้าหมายการเปิดให้บริการรถเมล์อีวีจะมีการบรรจุและให้บริการจำนวน 1,250 คันภายในเดือน ธ.ค.นี้
การเปิดเดินรถโดยสารปรับอากาศที่ใช้รถเมล์ไฟฟ้า สาย 2-38 (สาย 8 เดิม) โดยบริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัดนี้ ถือเป็นการคิกออฟการให้บริการรถโดยสารสาธารณะในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งตามการปฏิรูปเส้นทางรถโดยสารจะมีสายทางให้บริการจำนวน 237 เส้นทาง แบ่งเป็นผู้ประกอบการเป็นเอกชนที่มายื่นขอไลเซนส์กับกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) และการให้บริการขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ซึ่งการเปิดรถเมล์อีวี สาย 8 ของบริษัท ไทย สมายล์ บัส วันนี้เป็นการเปิดให้บริการรถโดยสารสาธารณะของผู้ประกอบการที่เป็นเอกชน ซึ่งจะเริ่มให้บริการในวันที่ 20 สิงหาคมนี้ จำนวน 40 คัน
ส่วนอัตราค่าโดยสารจะเป็นไปตามโครงสร้างค่าโดยสารรถปรับอากาศใหม่ที่คณะกรรมการขนส่งทางบกกลางกำหนดตามระยะทาง 15-20-25 บาท ซึ่งเอกชนได้เสนอการบริการเพิ่มเติม ค่าโดยสาร 40 บาทต่อวัน สำหรับการใช้บริการรถโดยสารของบริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด ทุกเส้นทาง โดยจะเป็นบัตรอิเล็กทรอนิกส์ (E- ticket) สามารถเติมเงินได้ ผู้โดยสารสามารถซื้อได้จากพนักงานที่อยู่บนรถคันดังกล่าว
ถือเป็นของใหม่แกะกล่อง ต้องมีการประเมินคุณภาพด้วย หลังให้บริการกระทรวงคมนาคมจะประเมินผล ปัญหาอุปสรรคการให้บริการในระยะเวลา 60 วัน ว่ามีเรื่องใดที่ต้องปรับปรุงแก้ไข เพื่อตอบโจทย์ในการให้บริการขับเคลื่อนเป้าหมายตามแผน โดยนำรถเมล์ไฟฟ้ามาวิ่งให้บริการขั้นต่ำ 5,000 คันในระยะเวลา 3 ปี และขยายเป็น 7,900 คันในอนาคต เพื่อรองรับความต้องการเดินทางเพิ่ม ในส่วนของ ขสมก. มีแผนนำรถเมล์ไฟฟ้ามาให้บริการปีนี้ประมาณ 400 คัน อยู่ระหว่างการจัดทำทีโออาร์ โดยมีผู้แทนจากองค์การต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) เข้ามาร่วมกำหนดทีโออาร์การจัดซื้อจัดจ้างเพื่อให้เกิดความโปร่งใสด้วย
เป็นเรื่องดีๆ สำหรับคนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่ได้ใช้รถเมล์ใหม่ที่ใช้พลังงานไฟฟ้ามาให้บริการ และตั้งธงว่ามีแผนที่จะดำเนินการไม่เกิน 3 ปีในการเปลี่ยนรถขนส่งสาธารณะทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นรถเก่าๆ หรือรถร้อนมาเป็นรถไฟฟ้า เพื่อเป็นการเพิ่มคุณภาพชีวิตให้ประชาชน เข้าถึงการให้บริการ โดยเฉพาะผู้ด้อยโอกาสก็สามารถเข้าถึงการให้บริการ ซึ่งจะทำให้สิ่งเหล่านี้เป็นไปตามสมมติฐานที่กระทรวงคมนาคมแสดงเจตนารมณ์ ถือว่าประชาชนได้ประโยชน์เต็มๆ.
กัลยา ยืนยง
