รองปลัด กทม. ติวเข้มแนวทางการตรวจสอบคุณสมบัติผู้ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เปิดรับลงทะเบียน 5 กันยายน นี้
เมื่อวันที่ 2 กันยายน สืบเนื่องกรณีกระทรวงการคลังเปิดรับลงทะเบียนโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 (ลงทะเบียนใหม่ทุกคน) ตั้งแต่วันที่ 5 ก.ย. – 19 ต.ค. 65 ทั้งผ่านเว็บไซต์ welfare.mof.go.th และหน่วยรับลงทะเบียนต่าง ๆ ได้แก่ สำนักงานเขต 50 เขต ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร คลังจังหวัด ที่ว่าการอำเภอ เมืองพัทยา ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร นั้น
กรุงเทพมหานครได้จัดการประชุมเพื่อชี้แจงแนวทางการตรวจสอบคุณสมบัติและข้อมูลผู้ลงทะเบียนและสมาชิกในครอบครัวของผู้ลงทะเบียน ภายใต้โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 โดยมี นางสุธาทิพย์ สนเอี่ยม รองปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมในวันนี้ (2 ก.ย. 65) ณ ห้องนพรัตน์ ชั้น 5 ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) เขตพระนคร
โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 มีหลักการลงทะเบียนรายบุคคล และตรวจสอบรายบุคคลและครอบครัว ซึ่ง “ครอบครัว” หมายถึง คู่สมรส และบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ ตามข้อมูลของกรมการปกครอง
คุณสมบัติของผู้ลงทะเบียนตามโครงการฯ
1. สัญชาติไทย
2. อายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
3. ต้องไม่เป็นภิกษุ/สามเณร/นักพรต/นักบวช ผู้ต้องขัง/ผู้ถูกกักกัน/ผู้ต้องกักขัง บุคคลที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ฯ ข้าราชการ/พนักงานราชการ/พนักงาน/ลูกจ้าง/เจ้าหน้าที่/ผู้ปฏิบัติงานในหน่วยงานของรัฐ ผู้รับบำเหน็จรายเดือน/ผู้รับบำนาญปกติหรือเบี้ยหวัดจากส่วนราชการ ข้าราชการการเมือง หรือ ส.ส./ส.ว.
4. รายได้ของผู้ลงทะเบียนและรายได้เฉลี่ยของครอบครัว ไม่เกิน 1 แสนบาทต่อปี
5. ทรัพย์สินทางการเงิน ได้แก่ เงินฝาก สลาก พันธบัตร และตราสารหนี้ภาครัฐ ของผู้ลงทะเบียน และทรัพย์สินทางการเงินเฉลี่ยของครอบครัว ไม่เกิน 1 แสนบาทต่อปี
6. ต้องไม่มีอสังหาริมทรัพย์ หรือมีอสังหาริมทรัพย์ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด เช่น มีห้องชุด ขนาดไม่เกิน 25 ตารางวา มีที่ดินที่ไม่ใช่เพื่อการเกษตรขนาดไม่เกิน 1 ไร่ กรณีเป็นเกษตรกร มีที่ดินขนาดไม่เกิน 10 ไร่ เป็นต้น
7. ไม่มีหนี้สิน หรือมีหนี้สินเงินกู้เพื่อการซื้อบ้าน ไม่เกิน 1.5 ล้านบาท เงินกู้เพื่อการซื้อรถไม่เกิน 1 ล้านบาท
8. ไม่มีบัตรเครดิต
ช่องทางการลงทะเบียน
1. การลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ welfare.mof.go.th กรณีผู้ลงทะเบียนไม่มีครอบครัว สามารถกรอกข้อมูลผ่านทางเว็บไซต์โดยไม่ต้องยื่นเอกสารที่หน่วยรับลงทะเบียน กรณีผู้ลงทะเบียนมีครอบครัว ให้เลือกหน่วยรับลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ จากนั้นนำเอกสารไปยื่นที่หน่วยรับลงทะเบียน ได้แก่ แบบฟอร์มลงทะเบียน บัตรประจำตัวประชาชนของผู้ลงทะเบียน สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของคู่สมรส พร้อมลงลายมือชื่อ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของบุตร หรือสำเนาสูติบัตร พร้อมลงลายมือชื่อ (กรณีที่คู่สมรสและบุตรของผู้ลงทะเบียนเดินทางมาแสดงตัวที่หน่วยรับลงทะเบียน พร้อมแสดงบัตรประจำตัวประชาชน ไม่ต้องใช้สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน)
2. การลงทะเบียนผ่านแบบฟอร์มลงทะเบียน (กระดาษ) ณ หน่วยรับลงทะเบียน (สำนักงานเขต 50 เขต ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร คลังจังหวัด ที่ว่าการอำเภอ เมืองพัทยา ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร) กรณีผู้ลงทะเบียนไม่มีครอบครัว ให้กรอกแบบฟอร์มลงทะเบียน และแสดงบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ลงทะเบียน ส่วนกรณีผู้ลงทะเบียนมีครอบครัว ให้กรอกแบบฟอร์มลงทะเบียน และแสดงบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ลงทะเบียน สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของคู่สมรส พร้อมลงลายมือชื่อ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของบุตร หรือสำเนาสูติบัตร พร้อมลงลายมือชื่อ (กรณีที่คู่สมรสและบุตรของผู้ลงทะเบียนเดินทางมาแสดงตัวที่หน่วยรับลงทะเบียน พร้อมแสดงบัตรประจำตัวประชาชน ไม่ต้องใช้สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน)
สำหรับผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้สูงอายุที่ไม่สามารถเดินทางมาลงทะเบียนได้ด้วยตนเอง สามารถมอบอำนาจให้บุคคลอื่นมาลงทะเบียนแทนได้ โดยใช้แบบฟอร์มลงทะเบียน บัตรประจำตัวประชาชนของผู้ลงทะเบียน สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของคู่สมรส พร้อมลงลายมือชื่อ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของบุตร หรือสำเนาสูติบัตร พร้อมลงลายมือชื่อ และเอกสารมอบอำนาจ ประกอบด้วย หนังสือมอบอำนาจ (ดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซต์โครงการฯ บัตรประจำตัวประชาชนของผู้ที่ได้รับมอบอำนาจ และสำเนาบัตรประจำตัวคนพิการ (ถ้ามี) หรือใบรับรองแพทย์ (ถ้ามี)
ระยะเวลาโครงการ
1. เปิดรับลงทะเบียนผ่านทางเว็บไซต์และหน่วยรับลงทะเบียน ระหว่างวันที่ 5 ก.ย. – 19 ต.ค. 65
2. ประกาศผลการลงทะเบียนและผลการตรวจสอบความสัมพันธ์กับกรมการปกครอง (ทุกวันศุกร์) เดือน ก.ย. 65 หากถูกต้อง ให้รอตรวจสอบคุณสมบัติ แต่หากไม่ถูกต้อง ให้แก้ไขข้อมูลที่หน่วยรับลงทะเบียน
3. ประกาศผลการพิจารณาคุณสมบัติ เดือน ม.ค. 66 หากผ่าน ให้รอยืนยันตัวตน แต่หากไม่ผ่าน ให้อุทธรณ์ผล
4. ยืนยันตัวตน สำหรับผู้ที่ผ่านคุณสมบัติ ผ่านธนาคารธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เดือน ม.ค. 66
5. ใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ ผ่านบัตรประชาชน ซึ่งกระทรวงการคลังจะประกาศให้ทราบต่อไป
ทั้งนี้ กรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานเขตทั้ง 50 เขต ได้เปิดรับลงทะเบียนโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ให้กับประชาชนผู้มีคุณสมบัติตามกำหนด ระหว่างวันที่ 5 ก.ย. – 19 ต.ค. 65 หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ที่ ฝ่ายพัฒนาชุมชนและสวัสดิการสังคม ทุกสำนักงานเขต
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก
Line @Matichon ได้ที่นี่
