โอมเพี้ยง! 'ปลอดประสพ'​ เผยเพื่อไทยมีแผนแยบยล แก้น้ำท่วมน้ำแล้งได้อย่างเบ็ดเสร็จ

แฟ้มภาพ

3 ก.ย.2565 – ดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี ประธานด้านนโยบายปฏิรูปโครงสร้างพื้นฐานด้านการจัดการน้ำ พรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ดูน้ำฟ้าให้มากว่าน้ำท่า

เมื่อวานไปแสดงความเห็นเรื่องน้ำที่พรรคเพื่อไทยเพื่อเป็นข้อมูลแก่สาธารณชนและเพื่อแนะนำเตือนสติคุณประวิตร ผู้รักษาการนายกรัฐมนตรี ตามที่เป็นข่าวไปแล้ว แต่ก็มีผู้คนถามมามากมายว่า ที่ผมพูดว่าวันนี้”ให้ดูน้ำฟ้ามากกว่าน้ำท่า” มันหมายความว่าอย่างไร

“น้ำท่า”คือน้ำที่ปรากฏอยู่ในลำน้ำทั้งหลาย บ้างก็อยู่นิ่ง บ้างก็ไหล(ลงมาตอนล่าง) สถานการณ์ปัจจุบัน น้ำในเขื่อนใหญ่มีเพียง 50% หากมีพายุเข้าก็ยังสามารถรับไหวอีกไม่น้อยกว่า 10,000-15,000 ล้านลบม. สำหรับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา หากดูการไหลผ่านที่เขื่อนชัยนาทก็มีเพียงไม่เกิน 2,000 ลบม.ต่อวินาที ซึ่งก็ถือว่าไม่มากนักไม่อันตรายเกินไป ไหลอย่างนี้หากไม่มีอะไรมาเติมอีกสองสามอาทิตย์ก็ไหลลงอ่าวไทยหมด ประชาชนที่เดือดร้อนมากที่สุดก็จะมีเฉพาะที่อาศัยอยู่นอกคันกั้นน้ำและริมแม่น้ำ (ขอแสดงความเห็นใจด้วย)

“น้ำฟ้า”คือน้ำฝน(ธรรมดานี่ละครับ) แต่น้ำฝนปีนี้มาแปลกคือ จะตกเฉพาะจุดและตกหนักมากด้วย เฉพาะอาทิตย์นี้ก็ที่ภูเก็ตและหาดใหญ่คือตกทีเดียวเกือบ 200 มม. ท่วมวินาตสันตะโรอย่างที่เห็น ส่วนที่ต่างประเทศก็มีปากีสถานตก 600 มม.ท่วมไปครึ่งประเทศ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น อเมริกาโดนหมดแล้วและพรุ่งนี้ญี่ปุ่นแถวๆโอกินาวา ไต้หวันและจีนก็จะโดนอีก สองสามวันที่แล้วแต่เช้าตรู่เกิดเมฆArcusเหนือกรุงเทพฯผู้คนแตกตื่นกลัวฟ้าจะถล่มลงมา ดีนะครับมาเกิดตอนเช้าซึ่งอากาศยังเย็นอยู่ หากเกิดตอนเย็น อากาศกรุงเทพฯซึ่งร้อนมากก็จะยกเจ้าเมฆนี้ขึ้นสูง พอไปกระทบอากาศเย็นก็จะกลายเป็นฝนมฤตยู(Rain Bomb) แน่นอน (เมฆArcusนี้จะหนักกว่าเมฆปกติเพราะมีไอน้ำเกลือจากทะเลและผสมด้วยฝุ่น PM 2.5 จึงลอยตำ่กว่าเมฆปกติ)

ที่ผมแนะนำให้เฝ้าสังเกตน้ำฟ้าให้มากก็เพราะตอนนี้ประเทศไทยเริ่มจะเข้าหน้าหนาวแล้ว ความกดอากาศสูงจากประเทศจีนเริ่มพัดมาถึง ก็จะไปดันร่องมรสุมให้ต่ำลงมาอยู่ที่ภาคกลาง ซึ่งหากเกิดโชคร้ายช่วงนี้เกิดมีไต้ฝุ่นหรือพายุเข้าประเทศไทย เจ้าร่องนี้ก็จะดูดพายุให้เข้าที่ภาคกลาง ซึ่งรวมถึงกรุงเทพฯด้วย หากเป็นเช่นนี้ก็ถือว่า เอวังพังแน่ๆ (ธรรมชาติไม่เคยโกหก เคยเข้าทุกปี ปีนี้ยังไม่มาเลย)

เห็นจะเป็นที่พึ่งได้ขณะนี้ก็คือ การพยากรณ์อากาศที่แม่นยำ พยากรณ์ให้ครอบคลุมล่วงหน้าสัก 10 วัน มีการเตือนภัยแต่เนิ่นๆ(แม้เตือนผิดก็ไม่เป็นไร ดีกว่าไม่เตือนแล้วเกิดเรื่องขึ้นมา) มีการซักซ้อมการขนย้ายช่วยเหลือผู้คน

ดังนั้น กรมอุตุนิยมวิทยา กรมชลประทาน กรมทรัพยากรน้ำ กรมเจ้าท่า กรมอุทกศาสตร์และกรมป้องกันบรรเทาสาธารณภัยต้องทำงานแบบบูรณาการจริงๆเหมือนการร้องเพลงประสานเสียง ต้องใช้ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติเป็นศูนย์รวมข่าวสาร แถลงการณ์บ่อยๆ มีความละเอียดที่มนุษย์ฟังแล้วรู้เรื่องเข้าใจ อย่าปล่อยให้โฆษกเก๊ โฆษกอวยออกมาพูดแบบทุกวันนี้

ผมขอแนะนำว่า ขอให้ท่านประวิตร ท่านประยุทธ์ใช้ความขยันของท่านในช่วงนี้ให้ได้ประโยชน์ (ท่านชัชชาติทำอยู่แล้ว) หากเกิดฝนตกใหญ่เมื่อใดก็ให้ใส่เสื้อฝน(คนละสี) ออกไปบัญชาการรบเลย อย่างนี้ได้คะแนนแน่ๆ

แต่วันหน้าหากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลบาล ขอยืนยันว่า เรามีแผนการณ์ที่แยบยล แม่นยำและเชื่อถือได้ เพื่อจัดการกับปัญหาน้ำที่เบ็ดเสร็จ หมดแน่นอนครับ น้ำท่วมน้ำแล้ง แถมไม่กลัวน้ำทะเลท่วมกรุงเทพฯอีกด้วย (ความลับ)