ประชาชนทยอยเดินทางกลับ หลังฉลองเทศกาลปีใหม่ ส่งผลให้การจราจรบนเส้นทางสายหลัก มุ่งหน้าสู่กรุงเทพมหานคร ยังหนาแน่น ถนนสาย 304 ติดขัดต่อเนื่อง
การจราจรบนถนนสาย 304 โคราช-กบินทร์บุรี ยังหนาแน่นไปด้วยรถยนต์ของประชาชนที่เดินทางกลับเข้าสู่กรุงเทพมหานคร หลังหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ ทำให้ปริมาณรถจากจังหวัดนครราชสีมา ไป อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ยังคงหนาแน่น เคลื่อนตัวได้ช้าสลับหยุดนิ่ง เนื่องจากสภาพถนนคดเคี้ยว และลาดชัน ทำให้รถติดสะสมหลายช่วง ทำความเร็วได้ประมาณ 10-20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ในช่วงที่เป็นทางตรงทำความเร็วได้ประมาณ 60-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนในจุดที่เป็นเส้นทางเข้าอุโมงค์เชื่อมผืนป่ามรดกโลก และเส้นทางเลี่ยงไปออกเขาใหญ่ อำเภอปากช่อง รถยังหนาแน่นเคลื่อนตัวได้ช้า
ส่วนถนนมิตรภาพ บริเวณทางต่างระดับนครราชสีมา เขตอำเภอเมืองนครราชสีมา เป็นทางร่วมถนนสืบศิริ มาสู่ถนนมิตรภาพ ทิศทางขาเข้ากรุงเทพฯ รวมทั้งบริเวณทางต่างระดับสีคิ้ว ถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพฯ ปริมาณรถน้อย สภาพการจราจรคล่องตัว ใช้ความเร็วได้ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ที่บริเวณสะพานกลับรถมอกลางดง ตำบลกลางดง อำเภอปากช่อง ปริมาณรถยังหนาแน่น เคลื่อนที่ได้ช้า ทำความเร็วได้ประมาณ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ส่วนสภาพการจราจรบนถนนสายเอเชีย (ขาเข้า) กรุงเทพมหานคร ช่วงผ่านจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบปริมาณรถมาก แต่ยังสามารถเคลื่อนตัวได้ดี
บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 26 ช่วงลงจากสะพานแม่น้ำป่าสัก มีปริมาณรถเลี้ยวเข้าอำเภอนครหลวง และรถจากช่องทางคู่ขนาน เบี่ยงขึ้นสะพานข้ามทางรถไฟช่วงหลักกิโลเมตรที่ 24 ตำบลหันตรา อำเภอพระนครศรีอยุธยา ทำให้รถชะลอตัวเล็กน้อย
ส่วนช่วงต่างระดับอยุธยา ตำบลคลองสวนพลู อำเภอพระนครศรีอยุธยา มีปริมาณที่ออกจากเกาะเมือง และปริมาณรถจากถนนโรจนะเบี่ยงซ้าย มารวมที่ถนนสายเอเชีย ทำให้รถชะลอตัว ตำรวจทางหลวงอยุธยา ต้องวางกรวยบังคับรถไม่ให้รถเลี้ยวตัดช่องการจราจร สามารถใช้ความเร็วได้ 80-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าในช่วงค่ำยังมีรถอีกจำนวนหนึ่งที่เดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ และจังหวัดปริมณฑล
ด้าน สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดตรัง ประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เดินทางไปรอรถตู้โดยสาร และรถทัวร์โดยสารปรับอากาศ เพื่อเดินทางกลับไปทำงานในกรุงเทพ และจังหวัดต่างๆ หลังสิ้นสุดเทศกาลปีใหม่
เจ้าหน้าที่ บขส.เผยว่า เทศกาลปีใหม่ 2566 มีประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินทางมากเกินที่คาดหมายไว้ ทำให้ทุกเส้นทางต้องใช้เวลาในการรอรถ และต้องเร่งจัดหารถเสริม ทั้งรถตู้โดยสาร และรถทัวร์ปรับอากาศที่วิ่งเชื่อมระหว่างจังหวัดในภาคใต้ด้วยกันรวมกว่า 10 คัน ขณะที่ บขส.ได้จัดรถทัวร์เสริมเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ในวันนี้อีก 5 คัน เพื่อให้เพียงพอกับประชาชนที่ต้องเดินทางกลับไปทำงาน ยืนยันจะไม่มีผู้โดยสารตกค้าง
ส่วนบรรยากาศการเดินทางกลับกรุงเทพฯ ที่สถานีรถไฟพิษณุโลก มีผู้โดยสารทั้งคนไทยและต่างชาติจำนวนมาก มานั่งรอใช้บริการรถไฟโดยสารสาธารณะ เพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรติดขัด และอุบัติเหตุบนท้องถนน ส่งผลให้รถไฟมีผู้โดยสารเต็มตั้งแต่ต้นทาง อย่างเช่น ขบวนรถเร็ว 112 ขาล่อง เด่นชัย-กรุงเทพ มีผู้โดยสารเดินทางทั้งระยะสั้นและระยะยาว สุดปลายทางสถานีกรุงเทพ
ทันทีที่รถไฟมาเทียบชานชลา ผู้โดยสารเร่งหอบหิ้วสัมภาระและของฝากขึ้นรถ เจ้าหน้าที่ต้องคอยขอความร่วมมือให้ผู้โดยสารด้านบนลงจากรถให้หมดเสียก่อน จึงค่อยขึ้นไปจะได้ไม่เสียเวลา เนื่องจากขบวนรถล่าช้ากว่ากำหนดถึง 110 นาที เพราะต้องจอดรับผู้โดยสารจำนวนมากเกือบทุกสถานีเพื่อเดินทางเข้ากรุงเทพ ขณะที่ตำรวจรถไฟ คอยตรวจตราดูแลความเรียบร้อยการเดินรถ ให้เป็นไปอย่างปลอดภัย