บช.น.จัดกำลังเพียงพอรับมือม็อบ 5 ห้าแยกลาดพร้าวเดินมาศาลอาญา ย้ำ กทม.เป็นเขตห้ามชุมนุมผิดกฎหมายหลายข้อหา ส่วนเรื่องความรุนแรงไม่ได้เกิดขึ้นจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ เริ่มต้นจากผู้ชุมนุมทั้งนั้น ขณะที่ รอง ผบช.น.เผยยังไม่สั่งปิดเส้นทางจราจร แนะหลีกเลี่ยง ถ.พหลโยธิน-ลาดพร้าว-รัชดา
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 6 มี.ค.2564 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. โฆษก บช.น. พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. และ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) แถลงข่าวการเตรียมความพร้อมการรักษาความปลอดภัย และการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรในการชุมนุมของกลุ่มเห็นต่างทางการเมือง
พล.ต.ต.ปิยะ เปิดเผยว่า จากการข่าวที่มีการรวมตัวจากกลุ่มผู้ชุมนุมในหลายพื้นที่ กลุ่มแดงก้าวหน้า 63 ชักชวนบริเวณโลตัสรังสิต เคลื่อนมาที่กรมทหารราบที่ 11 รอ. เพื่อมารวมตัวอาชีวะเพื่อประชาธิปไตย เวลา 17.00 น. กลุ่ม “กลุ่มประชาชนสร้างตัว” หรือ “รีเด็ม” (REDEM) มีการประกาศชักชวนที่ห้าแยกลาดพร้าวเคลื่อนตัวไปบนถนนรัชดาภิเษก ทำกิจกรรมเทขยะหน้าศาล จากการข่าวไปรวมตัวกลุ่มต่างๆ แยกเกษตร กลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบันแยกปทุมวัน อาชีวะไม่เอาเผด็จการรวมตัวอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ย้ายไปที่กรมทหารราบที่ 11 รอ. แจ้งเตือนว่า กทม.เป็นพื้นที่ห้ามชุมนุมตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ตาม พ.ร.บ.ควบคุมโรค ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.215 ก่อความวุ่นวายผิดกฎหมายอาญามั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป กระทำการให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง
การชุมนุมที่ผ่านมา ตำรวจได้มีการดำเนินคดีไปแล้ว 22 ราย และคดีอื่นๆ รวม 158 คดี ส่งสำนวนพนักงานอัยการ 116 คดี อยู่ระหว่างสืบสวน 42 คดี มีบาดเจ็บตำรวจ 90 นาย ได้รับบาดเจ็บ ส่งโรงพยาบาล 27 นาย เสียชีวิต 1 นาย ผู้โพสต์ชักชวน แกนนำจัดการชุมนุม ตลอดจนผู้เข้าร่วมชุมนุมมีความผิดตามกฎหมาย อาจจะได้รับโทษได้เช่นกัน
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า กรณีชายพกพาวัตถุระเบิดที่ตำรวจทำการจับกุมนั้น จากการสืบสวนสอบสวนเบื้องต้นพบว่า ได้มีการผลิตเอง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงพาไปตรวจค้นที่บ้าน อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก มีลักษณะให้การวกวนคล้ายคนวิกลจริต ซึ่งต้องรอผลพิสูจน์จากแพทย์รพ.ตร.ก่อน เห็นว่ามีการกล่าวอ้างว่าไปเรียนจากต่างประเทศ บอกไม่ชัดเจนว่านำระเบิดไปทำอะไร ส่วนการตรวจสอบประวัติยังไม่พบเกี่ยวกับการเมือง จึงแจ้งข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานและอีโอดีตรวจสอบวัตถุระเบิดก่อน ไม่พบความเชื่อมโยงกับเรื่องทางการเมือง ขณะนี้ได้ทำการฝากขังที่ศาลอาญา
เมื่อถามว่า ศาลอาญาร้องขอกำลังอย่างไรนั้น พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ให้มีการจัดเจ้าหน้าที่ตามปกติ ส่วนกำลังที่จัดเตรียมยืนยันว่าเตรียมไว้เพียงพอ ตลอดจนพฤติกรรมซึ่งช่วงหลังมีการใช้พลุเพลิง วัตถุติดไฟได้ง่าย และสร้างกระแสข่าวอย่างมีการใช้เครื่องพ่นควัน ทุบทำลายสิ่งของทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผบช.น. จัดกำลังเพียงพอ ส่วนการพักค้างแรม ม.เกษตรฯ มหาวิทยาลัยต้องขออนุญาตเจ้าของพื้นที่ ความรุนแรงไม่ได้เกิดจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ เริ่มต้นจากผู้ชุมนุมทั้งนั้น มีการรื้อถอนเครื่องกีดขวาง เห็นชัดเจนผู้ชุมนุมมีเจตนาอย่างไร
กรณีจัดวางเครื่องกีดขวางตู้คอนเทนเนอน์นั้น พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ยืนยันว่า สิ่งที่เกิดขึ้นครั้งก่อนหามาตรการป้องกัน การใช้อุปกรณ์ทั้งหมดเพื่อความปลอดภัยและยับยั้งอันตราย หากมีการละเมิดกฎหมายตำรวจก็จับกุมได้ทันที และพฤติกรรมยังไม่ก่อให้เกิดอันตรายอย่างร้ายแรงจะไม่บังคับใช้กฎหมายทันที เว้นแต่มีพฤติกรรมเสี่ยงต่อความไม่สงบเรียบร้อย บุกรุกสถานที่ราชการ ทุบทำลายสิ่งของราชการหรือเอกชน ตำรวจจะปล่อยให้มีการกระทำดังกล่าวไม่ได้ เราใช้ ป.อาญา และจับกุมตาม ป.วิอาญา นายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยกำชับการปฏิบัติ ผบ.ตร. ให้เน้นอดทนยึดมั่นในหลักการนิติรัฐนิติธรรม
ด้าน พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวว่า คาดว่าชุมนุมใน 4 จุด งานด้านจราจรเตรียมแผนไว้ หลักการไม่ปิดการจราจร ยกเว้นกลุ่มผู้ชุมนุมปิดการจราจร จุดแรก กรมทหารราบที่ 11 (ทม.11) จะกระทบถนนพหลโยธิน แยกเกษตร ถนนแจ้งวัฒนะ วงเวียนบางเขน ถนนรามอินทรา หน้ากรมทหารถึงวงเวียน กลุ่มที่รวมตัวห้าแยกลาดพร้าวยังไม่ได้มีการกำหนดเส้นทางควรหลีกเลี่ยงถนนพหลโยธิน ถนนลาดพร้าว และรัชดาภิเษก เวลา 15.00 น.
บริเวณแยกราชประสงค์ หลีกเลี่ยงเส้นทางบริเวณแยกดังกล่าวเวลา 11.00 น.เป็นต้นไป จุดสุดท้ายบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย น่าจะกระทบถนนราชดำเนินกลาง และถนนดินสอ ควรหลีกเลี่ยงก่อนเวลา 15.00 น.