ศาลเจ้าจีนแต้จิ๋วที่ถือว่าเก่าแก่และมีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่ง คนจีนเรียกว่า “ตั่วเล่าเอี้ย” เป็นศาลเจ้าที่ประดิษฐาน เฮี้ยงเทียนเซียงตี่, รูปเจ้าพ่อเสือ, เจ้าพ่อกวนอู และ เจ้าแม่ทับทิม ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของทั้งคนไทยและจีนเป็นอย่างมาก ศาลเจ้าพ่อเสือ มีประวัติความเป็นมาตั้งแต่สมัย พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 เดิมตั้งอยู่ริมถนนบำรุงเมือง ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 5 ทรงโปรดให้ขยายถนนบำรุงเมือง และให้พระยาโชฎีกราชเศรษฐีย้ายศาลมาไว้ที่ทางสามแพร่ง ถนนตะนาว จนถึงปัจจุบัน ตัวอาคารของศาลเจ้าพ่อเสือ สร้างตามรูปแบบศาลเจ้าที่นิยมทางภาคใต้ของจีน เทพเจ้าประจำศาล คือ เสียนเทียนซั่งตี้หรือเจ้าพ่อเสือ ซึ่งเป็นที่เลื่องชื่อในเรื่องความศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างมาก สำหรับการสร้างศาลประดิษฐานรูปเสือนั้น เป็นการนำเอากระดูกเสือบรรจุในแท่นปั้นรูปประดิษฐานบนแท่น อัญเชิญดวงวิญญาณเสือขอให้ปกปักรักษาประชาชนให้อยู่ร่มเย็นเป็นสุข ตำนานของเจ้าพ่อเสือที่ชาวบ้านย่านนี้ เล่าขานมีความเชื่อมโยงกับหลวงพ่อพระร่วง วัดมหรรณพารา (วัดมหรรณพ์) ซึ่งสะท้อนถึงความสัมพันธ์ ระหว่างพี่น้องชาวไทยและชาวจีนในละแวกนี้ที่มีมาช้านาน ในแต่ละวัน ศาลเจ้าพ่อเสือจะคับคั่งไปด้วยผู้คน ที่พากันมากราบไหว้เพื่อ “เสริมอำนาจบารมี” โดยใช้ ธูป 18 ดอก และเทียนแดงคู่ เป็นเครื่องสักการะ วิธีสักการะ คือไหว้ด้วยธูป 18 ดอก ปัก 6 กระถาง เทียนแดง 1 คู่ และพวงมาลัย 1 พวง ส่วนการสักการะเจ้าพ่อเสือ จะต้องซื้อเครื่องเซ่น ประกอบด้วย หมูสามชั้น ไข่สด และข้าวเหนียวหวาน นอกจากนี้ ภายในศาลเจ้าพ่อเสือ ยังตกแต่งด้วยโบราณวัตถุ ซึ่งบางชิ้นมีอายุกว่า 100 ปี โดยเปิดให้เข้าเยี่ยมชมทุกวัน ที่ตั้ง : 468 ถนนบ้านตะนาว แขวงศาลเจ้าพ่อเสือ เขตพระนคร กรุงเทพฯ (ใกล้เสาชิงช้า) เปิดทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น. เวลาที่เหมาะสมสำหรับการไปสักการะคือ 06.00-17.00 น. และควรแต่งกายสุภาพ ส่วนการเดินทาง เพื่อความสะดวกควรใช้บริการรถประจำทาง สาย 10, 12, 19, 35, 42 และ ปอ.12หรือรถแท็กซี่ เนื่องจากสถานที่จอดรถมีจำนวนจำกัด Blog ท่องเที่ยวตะลุยเที่ยวย่านสาทรใต้ ศูนย์รวมทางศาสนาและความเชื่อออกไปสูดอากาศบนยอดไม้ “ป่าในกรุง” กรุงเทพฯ ก็มีแบบนี้ด้วยพาลุย Wall Art ย่านเจริญกรุงอนุสรณ์สถานแห่งชาติ พิพิธภัณฑ์ทหาร แหล่งเรียนรู้เพื่อรำลึกถึงผู้เสียสละ