“กทม.” ลงพื้นที่ตรวจสอบมาตรฐาน “ทางหนีไฟ” ของสถานบันเทิง ย่านวังทองหลาง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์

นางสาวทวิดา  กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย พล.ต.อ.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตวังทองหลาง ตำรวจนครบาลวังทองหลาง ลงพื้นที่ตรวจสถานบันเทิง  ย่านวังทองหลาง 

รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า วันนี้มาตรวจสอบ หลังจากสำนักงานเขตวังทองหลาง ได้ตรวจไปแล้ว เพื่อดูว่าทางร้านมีการปรับเปลี่ยนเพิ่มเติม จากที่มีการแจ้งให้ปรับเปลี่ยนไปแล้วหรือไม่ ซึ่งเบื้องต้นพบว่า สัญลักษณ์ “ทางหนีไฟ” ยังไม่ชัดเจนเพียงพอ จึงขอให้ผู้ประกอบการ จัดทำสัญลักษณ์ให้ผู้มาใช้บริการ เห็นได้ชัดเจนเมื่อเกิดเหตุ  แม้ผู้ประกอบการจะจัดทำแผนผังสัญลักษณ์เส้น“ทางหนีไฟ” ให้ผู้มาใช้บริการได้เห็นได้ชัดเจนแล้วก็ตาม แต่ในบางจุด เส้น“ทางหนีไฟ”  อาจมีสิ่งกีดขวาง อยู่บ้าง จึงให้ผู้ประกอบการได้ปรับย้ายแล้ว

ส่วนการตรวจสอบโครงสร้างของสถานประกอบการ ฝ่ายงานโยธาของสำนักงานเขตแต่ละเขต ได้มีการตรวจสอบสถานบริการในพื้นที่รับผิดชอบไปแล้วในเบื้อต้น การตรวจเชิงรุกในครั้งนี้เป็นการตรวจเพื่อติดตาม เพราะบางครั้งมีการแนะนำไปแล้วแต่ทางสถานประกอบการไม่ได้ทำตามที่แนะนำไปหรือมีความล่าช้าในการทำ ดังนั้นจึงต้องเร่งให้มีการปรับปรุงและรองรับกับประชาชนที่จะมาเที่ยวได้

นางสาวทวิดากล่าวอีกว่า ปกติเวลาตรวจเชิงรุก ทุกสำนักงานเขตจะต้องรายงานอยู่แล้วทุกวันอังคาร โดยจะรายงานมาที่ ที่ศูนย์ ศบค. ซึ่งเป็นศูนย์ที่ใช้บริหารสถานการณ์โควิดมาก่อน  แต่ผู้ว่า กทม. ได้มีการปรับให้ศูนย์นี้ให้ดูแลความปลอดภัยและสาธารณสุขทุกเรื่อง ดังนั้นการตรวจ“สถานบันเทิง” จะมีรอบในการตรวจเป็นปกติอยู่แล้ว แต่ก่อนหน้านี้จะเน้นเรื่องของโควิด และการฟื้นฟูสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ แต่หลังจากนี้จะเน้นหนักในเรื่องของความปลอดภัยโดยเฉพาะเหตุเพลิงไหม้ เนื่องจากสองปีกว่าที่ผ่านมา “สถานบันเทิง” และสถานประกอบการหลายแห่งมีการหยุดพัก ไม่ได้ใช้งาน จึงอาจทำให้เกิดการโหลดของการใช้ไฟฟ้าได้ นอกจากนั้น ก็จะมีเรื่องของความทรุดโทรมของสถานที่ด้วย  ดังนั้นนอกจากจะมีการตรวจประจำอยู่แล้วก็จะต้องมีการตรวจในเชิงรุกเป็นทีมของ “กทม.”และเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ด้วย เพื่อไม่ให้มีสถานที่ที่มีข้อบกพร่องหรือมีความผิดพลาด อย่างไรก็ตามเมื่อมีการตรวจในเชิงรุกครบเสร็จสิ้นแล้ว ทางสำนักเขตก็ยังคงต้องตรวจเป็นรอบปกติ และรายงานผลทุกวันอังคารอยู่ดี ดังนั้นจะมีการตรวจทั้งแบบปกติและแบบเชิงรุก เพื่อให้ทุกคนมีความระมัดระวังและปลอดภัยมากขึ้น