กทม.ห่วงร้อนจัด! เฝ้าระวังไฟไหม้บ่อขยะ

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม.เปิดเผยว่า ในช่วงเดือน มี.ค.- พ.ค.ของทุกปี เป็นช่วงที่ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูร้อน ซึ่งมักจะมีอากาศแห้งแล้ง ส่งผลให้เกิดเหตุเพลิงไหม้ในสถานที่ต่างๆ รวมถึงสถานที่กำจัดขยะ กทม. โดยสำนักสิ่งแวดล้อมได้มีมาตรการป้องกันเหตุเพลิงไหม้ในศูนย์กำจัดมูลฝอยทั้ง 3 แห่ง ประกอบด้วย ศูนย์กำจัดมูลฝอยอ่อนนุช หนองแขม และสายไหม โดยจัดเจ้าหน้าที่ตรวจตรา เฝ้าระวัง และตรวจสอบสิ่งผิดปกติ เช่น การลักลอบเผาขยะ สายไฟ การเกิดประกายไฟ หรือเปลวควัน ทั้งภายในพื้นที่ศูนย์กำจัดมูลฝอยและพื้นที่โดยรอบ

นอกจากนี้ ยังได้ปรับสภาพพื้นที่โดยไถกำจัดวัชพืชแห้ง รวมถึงจัดทำแนวกันไฟโดยรอบศูนย์กำจัดมูลฝอย เพื่อป้องกันเหตุเพลิงไหม้และปัญหามลพิษที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนและสิ่งแวดล้อม ขณะเดียวกันได้เตรียมพร้อมรับมือเหตุเพลิงไหม้ โดยสำรวจตรวจสอบระบบป้องกันอัคคีภัยและวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ดับเพลิงให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน รวมทั้งจัดเจ้าหน้าที่ระงับเหตุเมื่อเกิดเพลิงไหม้และประสานแจ้งผู้รับจ้างกำจัดมูลฝอยให้เตรียมพร้อมป้องกันเหตุเพลิงไหม้ในสถานที่กำจัดมูลฝอยทุกแห่ง ตลอดจนประสานสำนักงานเขตพื้นที่เฝ้าระวังการลักลอบเผาประเภทต่าง ๆ เพื่อป้องกันเหตุเพลิงไหม้ที่อาจลุกลามมายังศูนย์กำจัดมูลฝอยของกทม.ต่อไป

  ทั้งนี้ ที่ผ่านมายังได้มีประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่องกำหนดมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟไหม้หญ้าบริเวณพื้นที่รกร้างว่างเปล่าในเขตกรุงเทพมหานคร เพื่อให้ทั้ง 50 สำนักงานเขต ตรวจสอบพื้นที่รกร้างว่างเปล่าที่เสี่ยงต่อการเกิดเพลิงไหม้และประสานสถานีตำรวจนครบาลท้องที่กวดขัน จับกุมผู้ที่เผาหญ้าและลุกลามสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินของประชาชน เพื่อดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 220 มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรืออาจเข้าข่ายเป็นความผิดตามมาตราอื่นๆ

รวมทั้งขอความร่วมมือประชาชนปรับปรุงต้นไม้ที่ปลูกไว้ หรือที่ขึ้นเองไม่ให้เหี่ยวแห้ง รกรุงรัง หรือทิ้งสิ่งปฏิกูลมูลฝอยในบริเวณที่ดินของตน งดการเผาซากวัชพืชหลังการเก็บเกี่ยวพืชผลทางการเกษตร งดการเผาขยะมูลฝอย เผาหญ้า และเศษกระดาษในชุมชน รวมถึงบริเวณริมถนนสองข้างทาง ซึ่งอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุทางถนน เนื่องจากกลุ่มควันจากการเผาไหม้บดบังทัศนวิสัยในการขับขี่ยานพาหนะ ตลอดจนจัดทำรั้วกั้นรอบพื้นที่ของตนเอง เพื่อป้องกันมิให้ผู้อื่นนำขยะมาทิ้ง และขอให้กำจัดวัชพืชในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้หญ้า ทั้งนี้ หากพบเหตุเพลิงไหม้บ้าน เพลิงไหม้หญ้า หรือเหตุสาธารณภัยอื่น ๆ สามารถแจ้งเหตุผ่านสายด่วน 199 และ 1555 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง