กทม.กำชับเขต คุมเข้ม ”สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ” คืนสุดท้ายก่อนปิดตามคำสั่ง ศบค. สั่งบุคลากร กทม. ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 เลี่ยงเดินทางไปพื้นที่เสี่ยง
วันที่ 9 เม.ย. 2564 นายวัลลภ สุวรรณดี ประธานที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในฐานะที่ปรึกษาศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กรุงเทพมหานคร (ศบค.กทม.) เป็นประธานการประชุม ศบค.กทม. ครั้งที่ 26/2564
คืนนี้เฝ้าระวังสถานบันเทิงก่อนปิด 14 วัน
โดยที่ประชุมกำชับให้คณะทำงานด้านการประสานงานการดูแลความสงบเรียบร้อย ของ ศบค.กทม. มีสำนักเทศกิจเป็นเลขานุการฯ ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานเขต กอ.รมน.กทม. สน.ท้องที่ ปฏิบัติงานตรวจแนะนำ กำกับสถานบริการ สถานประกอบการคล้ายสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ ในพื้นที่ให้ปฏิบัติตามมาตรการที่ราชการกำหนดอย่างเคร่งครัด
- ประยุทธ์ ไฟเขียว องค์การเภสัชนำเข้าวัคซีน ขายต่อ รพ.เอกชน 10 ล้านโดส
- หมอเลี้ยบ ชี้โควิดพันธุ์อังกฤษแรง 170 เท่า ไม่มีหลักฐานทางระบาดวิทยา
อาทิ การสวมหน้ากากอนามัย การเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล การใช้แพลตฟอร์ม “ไทยชนะ” และ “หมอชนะ” เป็นต้น โดยเฉพาะในค่ำคืนนี้ (9 เม.ย. 64) คาดว่าจะเปิดให้บริการได้เป็นคืนสุดท้ายก่อนปิดบริการตามคำสั่ง ศบค. หากสถานบริการแห่งใดฝ่าฝืนหรือทำให้เกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 ซ้ำ อาจเสนอให้ คณะกรรมการโรคติดต่อ กทม.ขยายการปิดให้บริการ
“ขอให้นักเที่ยวหรือประชาชนที่เดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง หรือมีความกังวลว่ามีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 ให้ทำแบบประเมินความเสี่ยงในระบบคัดกรอง COVID-19 ของ กทม.พร้อมทั้งเฝ้าระวัง สังเกตอาการตนเอง และกักตัวเป็นเวลา 14 วัน“
สั่งการบุคลากร กทม. งดเดินทางไปพื้นที่เสี่ยง
นอกจากนี้ที่ประชุมได้แจ้งให้ข้าราชการและบุคลากรของ กทม. ปฏิบัติตามหนังสือด่วนที่สุด ที่ กท 0704/51ลงวันที่ 8 เม.ย. 2564 ซึ่งปลัดกรุงเทพมหานครสั่งการให้ปฏิบัติดังนี้
1.ให้ข้าราชการและบุคลากรทุกคนปฏิบัติตนตามมาตรการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ตามที่ทางราชการกำหนด โดยเว้นระยะห่างระหว่างกัน สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา ล้างมือบ่อย ๆ ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย (D-M-H-T-T) อย่างเคร่งครัด และลงทะเบียนก่อนเข้า – ออก สถานที่ด้วยแอปพลิเคชั่นที่ทางราชการกำหนด เช่น ไทยชนะ หมอชนะ
2.ให้หน่วยงานพิจารณาทบทวนให้มีการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง (Work from Home) และพิจารณาการเหลื่อมเวลาทำงาน เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรค
3.ให้งดเว้นการเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง และ 4.ให้ข้าราชการและบุคลากรที่ปฏิบัติงานที่อาจมีความเสี่ยงในการสัมผัสโรคติดเชื้อโควิด-19 สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อส่วนบุคคลอย่างเหมาะสม ยึดหลักการป้องกันโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจและการติดเชื้อจากการสัมผัสอย่างเคร่งครัด โดยล้างมือก่อน – หลัง การปฏิบัติงานทุกครั้งด้วย