ศูนย์ประสานงานและแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ กทม. เตือนชาวกรุง เช้านี้ “งดกิจกรรมนอกบ้าน” เพราะตรวจพบค่าฝุ่น “PM2.5” เกินค่ามาตรฐานมากถึง 17 พื้นที่ แนะให้เลี่ยงพื้นที่เสี่ยง และสวมหน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่น
วันนี้ (30 ม.ค.) ศูนย์ประสานงานและแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศในกรุงเทพมหานคร รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ “PM 2.5” ของสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศของกรุงเทพมหานคร ประจำวันเสาร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2564 เวลา 07.00 น. ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ของฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) พบว่า
ตรวจวัดค่าฝุ่น “PM 2.5” ได้ 37-60 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) พบว่า “เกินค่ามาตรฐาน” (มาตรฐานไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม.) จำนวน 17 พื้นที่ คือ
1.เขตประเวศ ด้านหน้าห้างสรรพสินค้าซีคอน สแควร์ : มีค่าเท่ากับ 60 มคก./ลบ.ม.
2.เขตหนองแขม สามแยกข้างป้อมตำรวจ ถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81 : มีค่าเท่ากับ 59 มคก./ลบ.ม.
3.เขตพระโขนง ภายในสำนักงานเขตพระโขนง : มีค่าเท่ากับ 58 มคก./ลบ.ม.
4.เขตสายไหม ป้ายรถเมล์ด้านหน้าสำนักงานเขตสายไหม : มีค่าเท่ากับ 56 มคก./ลบ.ม.
5.เขตทวีวัฒนา ทางเข้าสนามหลวง 2 : มีค่าเท่ากับ 56 มคก./ลบ.ม.
6.เขตยานนาวา ใกล้ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สำนักงานใหญ่ : มีค่าเท่ากับ 55 มคก./ลบ.ม.
7.เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ด้านหน้าสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ : มีค่าเท่ากับ 54 มคก./ลบ.ม.
8.เขตบึงกุ่ม ภายในสำนักงานเขตบึงกุ่ม : มีค่าเท่ากับ 53 มคก./ลบ.ม.
9.เขตคันนายาว บริเวณปากทางถนนสวนสยามตัดกับถนนรามอินทรา : มีค่าเท่ากับ 53 มคก./ลบ.ม.
10.เขตคลองเตย ภายในสำนักงานเขตคลองเตย : มีค่าเท่ากับ 53 มคก./ลบ.ม.
11.เขตหนองจอก บริเวณหน้าสำนักงานเขตหนองจอก : มีค่าเท่ากับ 53 มคก./ลบ.ม.
12.เขตสวนหลวง ด้านหน้าสำนักงานเขตสวนหลวง : มีค่าเท่ากับ 52 มคก./ลบ.ม.
13.เขตคลองสามวา ภายในสำนักงานเขตคลองสามวา : มีค่าเท่ากับ 52 มคก./ลบ.ม.
14.เขตบางขุนเทียน ภายในสำนักงานเขตบางขุนเทียน : มีค่าเท่ากับ 51 มคก./ลบ.ม.
15.เขตธนบุรี ริมป้ายรถเมล์บริเวณแยกมไหศวรรย์ : มีค่าเท่ากับ 51 มคก./ลบ.ม.
16.เขตทุ่งครุ หน้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี : มีค่าเท่ากับ 51 มคก./ลบ.ม.
17.เขตบางนา บริเวณหน้าห้าง สรรพสินค้าบิ๊กซี บางนา : มีค่าเท่ากับ 51 มคก./ลบ.ม.
ทั้งนี้ ดัชนีคุณภาพอากาศของสถานีตรวจวัดของกรุงเทพมหานคร พบว่าส่วนใหญ่อยู่ในระดับ “คุณภาพอากาศปานกลาง” มีคำแนะนำว่า ประชาชนทั่วไปสามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งได้ตามปกติ แต่ผู้ที่ต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ เช่น ผู้สูงอายุ เด็ก ผู้ป่วย หากมีอาการผิดปกติเบื้องต้น เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา ควรลดระยะเวลาทำกิจกรรมกลางแจ้ง
ส่วนบางพื้นที่ตรวจพบว่า ดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ในระดับ “เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ” มีคำแนะนำว่า ให้ประชาชนทั่วไปในบริเวณที่มีมลพิษทางอากาศเกินมาตรฐานให้เฝ้าระวังสุขภาพ หากมีอาการเบื้องต้น เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้งโดยเฉพาะ ผู้สูงอายุ เด็กและผู้ป่วยทางเดินหายใจ และใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากเกิดความจำเป็น
ด้าน “กรมอุตุนิยมวิทยา” พยากรณ์สภาพอากาศในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พบว่า มีเมฆบางส่วน
———————
อ้างอิง : สำนักงานประชาสัมพันธ์ กรุงเทพมหานคร
