เรื่องโดย ฐิติพร โยทาพันธ์ Team Content www.thaihealth.or.th
ข้อมูลจาก กิจกรรมเปิดตัวและอบรมเชิงปฏิบัติการ “โครงการห้องเรียนสู้ฝุ่นในพื้นที่กรุงเทพมหานคร” เพื่อรับมือสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5)
ภาพโดย ชยวีย์ ลิ้มถาวรรักษ์ Team Content www.thaihealth.or.th และแฟ้มภาพ
ฤดูหนาวมาเยือนแล้ว คงไม่แคล้วต้องเจอฝุ่น PM2.5 แต่ถึงฝุ่นจะมา ก็ต้องตั้งท่า เตรียมพร้อมป้องกันให้ดี
เพราะเราทุกคนมีส่วนทั้งช่วยสร้างและลดฝุ่น PM2.5 รู้หรือไม่ว่าฝุ่น PM2.5 อยู่กับเราตลอด โดยเฉพาะพื้นที่ในเขตเมืองหลวงของไทยอย่าง “กรุงเทพฯ เมืองฟ้ามหานคร” ที่ต้องเผชิญกับฝุ่น PM2.5 ตลอดเวลาแบบไม่รู้ตัว เมื่อหนีไม่พ้น จึงต้องพร้อมรับมือ ลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นให้ได้มากที่สุด
ภาพของคอนโดสูงที่กำลังก่อสร้าง รถไฟฟ้าที่แล่นสวนกันไปมาบนรางลอยฟ้า การจราจรที่แน่นหนา ถนนทุกสายเต็มไปด้วยรถยนต์ ต้องยอมรับว่ากรุงเทพฯ มีการเจริญเติบโตของเมืองอย่างรวดเร็ว ทั้งการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้าง รถไฟฟ้า การคมนาคมต่าง ๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก่อให้เกิดฝุ่นตลอดเวลา เรื่องการลดปริมาณฝุ่นในเขตเมืองเป็นเรื่องสำคัญและท้าทาย เป็นภัยต่อสุขภาพที่ต้องเร่งแก้ไข โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน เป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด
มาถึงตรงนี้เชื่อว่าหลายคน ต้องตั้งคำถามกลับแน่นอนว่า “แล้วจะลดฝุ่นได้ยังไง จะลดจริง ๆ ได้เหรอ” ในความเป็นจริงแล้วฝุ่นไม่ได้หายไปไหน และจะมาเป็นฤดูกาล การจะขจัดให้หมดไป คงเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก ต้องใช้เวลาและความร่วมมือจากหลายภาคส่วน แต่เราทุกคนสามารถมีส่วนที่จะช่วยกันลดปริมาณฝุ่นไม่ให้เกินค่ามาตรฐานที่กำหนดได้
“จากเหนือ-อีสาน สู่ กทม. ส่งต่อนวัตกรรมห้องเรียนสู้ฝุ่น” ถือเป็นหมุดหมายที่ดี สสส. และภาคีเครือข่าย สานพลังร่วมกับกรุงเทพมหานคร ส่งต่อนวัตกรรม ‘ห้องเรียนสู้ฝุ่น’ หมายมั่นปั้นโรงเรียนในสังกัด กทม. กว่า 34 แห่ง ให้เป็นโรงเรียนต้นแบบห้องเรียนสู้ฝุ่น และมีแผนจะขยายให้ครอบคลุมกว่า 437 แห่ง ทั่วกทม.เตรียมพร้อมรับมือกับวิกฤตฝุ่น PM2.5 ในเมืองหลวง และความพิเศษของกิจกรรมนี้ทาง สสส. และโครงการห้องเรียนสู้ฝุ่นยังได้มอบเครื่องวัดค่าฝุ่น หนึ่งในนวัตกรรมเด่นการสร้างเสริมสุขภาพให้กับทาง กทม. เพื่อนำไปติดตั้งในโรงเรียนที่จะนำร่องอีกด้วย
ผศ.ดร.นิอร สิริมลคลเลิศกุล ผศ.ดร.นิอร สิริมงคลเลิศกุล ที่ปรึกษาโครงการห้องเรียนสู้ฝุ่น สสส. พูดถึงการขยายโครงการห้องเรียนสู้ฝุ่นสู่ กทม. ในครั้งนี้ว่า “การขยายโครงการห้องเรียนสู้ฝุ่นมาสู่โรงเรียนต้นแบบในจังหวัดกรุงเทพมหานคร ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญมาก ๆ ของการขับเคลื่อนให้เกิดสังคมอากาศสะอาดในเขตเมืองหลวง ซึ่งต้องเจอกันมลพิษทางอากาศตลอดทั้งปี มีจำนวนประชากรที่เยอะ การขยายโครงการห้องเรียนสู้ฝุ่นสู่กรุงเทพมหานครในครั้งนี้ เราได้ส่งต่อนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพเครื่องวัดค่าฝุ่นในพื้นที่ รวมถึงส่งต่อองค์ความรู้ในการป้องกันและรับมือกับฝุ่น PM2.5 ให้กับโรงเรียนในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครกว่า 34 แห่ง เพื่อให้โรงเรียน เด็กนักเรียนได้นำความรู้ในการป้องกันและลดฝุ่น PM2.5 นี้ ส่งต่อไปยังผู้ปกครองและชุมชนที่อาศัย ให้สามารถรับมือและป้องกันเมื่อเจอกับวิกฤตฝุ่น”
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พูดว่า “อากาศเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการดำรงชีวิต การแก้ไขปัญหาวิกฤตฝุ่น PM2.5 ของกรุงเทพฯ ต้องบูรณาการการทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบและเร่งด่วน โดยการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ สนับสนุน ระดมสรรพกำลัง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการปัญหามลพิษทางอากาศให้เกิดประโยชน์สูงสุด ขณะนี้มีโรงเรียนนำร่องในเขตกรุงเทพฯกว่า 34 โรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการห้องเรียนสู้ฝุ่นและตั้งเป้าหมายไว้ภายใน ปี 2566 นี้ ค่าฝุ่นในเขตกรุงเทพฯ ต้องอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน เป็นเมืองหลวงที่น่าอยู่อย่างยั่งยืนต่อไป”
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พูดถึงโครงการห้องเรียนสู้ฝุ่นอีกด้วยว่า “โครงการห้องเรียนสู้ฝุ่นของ สสส. เป็นโครงการที่ดีมาก เน้นการป้องกัน โดยไม่ต้องรอให้เกิดปัญหาขึ้นก่อน ชี้ให้เห็นการแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุได้อย่างแท้จริง โดยให้เด็กและเยาวชนเป็นแกนหลักในการส่งต่อองค์ความรู้ของการลดปัญหาฝุ่นและป้องกัน PM2.5 สู่ครอบครัว สังคม ในส่วนของกรุงเทพมหานครเองก็จะสานต่อโครงนี้ต่อไป เพื่อร่วมกันผลักดัน สร้างเมืองให้มีอากาศสะอาดมากยิ่งขึ้น ลดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ให้กรุงเทพมหานครเป็นเมืองที่น่าอยู่”
เป้าหมายสำคัญ 3 ประการ ของการขยายโครงการห้องเรียนสู้ฝุ่นสู่ กทม.
1.สร้างสถานศึกษาต้นแบบรับมือฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพ
2.พัฒนาระบบข้อมูล องค์ความรู้ และสื่อ ให้เป็นเครื่องมือในการขยายผลและสร้างกลไกที่เกี่ยวข้องระดับชุมชน สำนักงานเขต และสังคม
3.สานพลังหน่วยงานและภาคีเครือข่ายในพื้นที่กรุงเทพ รับมือกับภัยจากฝุ่น PM2.5 ร่วมกัน
เพราะเราทุกคนมีส่วนทั้งช่วยสร้างและลดฝุ่น PM2.5 ถึงแม้เราจะหนีวิกฤติมลพิษทางอากาศนี้ไม่พ้น แต่เราสามารถเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมได้ เพียงแค่ต้องตระหนักและตื่นรู้ถึงปัญหา ลุกขึ้นมาร่วมมือร่วมใจกันลดปริมาณฝุ่นให้ลดลงในแบบฉบับที่เราทำได้ ถึงแม้เป็นเพียงสิ่งเล็กน้อย แต่เชื่อเสมอว่าหากนำความตั้งใจที่เราทุกคนช่วยกันลดปริมาณฝุ่นมารวมกัน ก็จะสามารถลดผลกระทบต่อสุขภาพและสร้างอากาศที่สะอาดคืนกลับให้สังคมเมืองต่อไปได้
สสส. และภาคีเครือข่ายร่วมสานพลังกรุงเทพมหานคร ขับเคลื่อนโครงการห้องเรียนสู้ฝุ่นสู่พื้นที่เขตเมือง มุ่งพัฒนานวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพที่ตอบโจทย์การแก้ไขปัญหาสุขภาพของคนเมืองผ่านนวัตกรรมเครื่องวัดค่าฝุ่น ส่งต่อความรู้ แนวทางการป้องกันและรับมือกับฝุ่น PM2.5 ผ่านเด็ก เยาวชน และโรงเรียนในการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 อย่างถูกวิธี ลดผลกระทบต่อสุขภาพ ร่วมสร้างอากาศสะอาดให้กับคนเมืองอย่างยั่งยืน