ทนายความยื่นคำร้องขอศาลอาญาสั่งย้าย “โตโต้-ไผ่-ไมค์” มาเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ตามหมายขังของศาล
เมื่อวันที่ 10 มีนาคม เฟซบุ๊กศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้โพสต์ข้อความว่า วันนี้ ที่ศาลอาญา นรเศรษฐ์ นาหนองตูม ทนายความ เข้ายื่นคำร้องขอให้ศาลออกคำสั่งให้นำตัว “โตโต้” ปิยรัฐ จงเทพ, “ไผ่” จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา และ “ไมค์” ภาณุพงศ์ จาดนอก จากเรือนจำพิเศษธนบุรี มาคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ให้ตรงกับหมายขังระหว่างสอบสวนและพิจารณาคดี เนื่องจากหมายขังจะต้องจัดการให้เป็นไปตามเขตของศาล อีกทั้งการนำตัวไปขังในเรือนจำที่ห่างไกล นั้นกระทบกระเทือนต่อสิทธิในการต่อสู้คดีของผู้ต้องหาและสิทธิอื่นๆ เนื่องจากทนายความและญาติเข้าเยี่ยมไม่สะดวก
คำร้องขอให้ออกคำสั่งนำตัวทั้ง จตุภัทร์,ภาณุพงศ์ และปิยรัฐมาขังไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มีเนื้อหาโดยสรุปดังนี้
คดีนี้ เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2564 ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ฝากขัง จตุภัทร์ และ ภาณุพงศ์ ในคดีหมิ่นประมาทกษัตริย์ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 จากการชุมนุมทวงคืนอำนาจให้ราษฎร เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2563 และปิยรัฐ จงเทพ ในคดีชุมนุมทิ้งขยะหน้าศาลอาญา เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2564
โดยทั้งสาม ศาลมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ทั้งนี้ศาลออกหมายขังระหว่างสอบสวนให้กับผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และได้กำหนดให้ขังไว้ที่ เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร แต่ปรากฏว่าทั้งสามกลับถูกบุคคลนำตัวไปคุมขังไว้ที่เรือนจำพิเศษธนบุรีซึ่งถือว่าเป็นการคุมขังที่ขัดต่อหมายขังของศาล และขัดต่อกฎหมายเพราะหมายขังจะต้องจัดการให้เป็นไปตามนั้นในเขตของศาลซึ่งออกหมาย ตามมาตรา 89 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
และไม่ว่าด้วยเหตุผลใด การนำ จตุภัทร์ ภาณุพงศ์และ ปิยรัฐไปคุมขังไว้ที่เรือนจำพิเศษธนบุรี ซึ่งเป็นเรือนจำที่มีที่ตั้งอยู่ห่างไกลจากศาลอาญาและเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ย่อมทำให้เกิดความเดือดร้อนเกินสมควรแก่ทั้งสามคนเป็นอย่างยิ่ง ทำให้ทนายความผู้ต้องหาไม่สามารถเดินทางไปปรึกษาหารือเกี่ยวกับคดีได้อย่างสะดวก เต็มที่ และเป็นธรรม กระทบกระเทือนต่อสิทธิในการต่อสู้คดีของผู้ต้องหาในคดีนี้เป็นอย่างยิ่งและยังกระทบต่อญาติของผู้ต้องหาในการเดินทางติดต่อขอเข้าเยี่ยมหรือสั่งซื้อสิ่งของเครื่องใช้จำเป็นให้แก่ผู้ต้องหาอีกด้วย
อีกทั้งการนำตัวจำเลยและผู้ต้องหาไปคุมขังไว้ที่เรือนจำพิเศษธนบุรี ย่อมก่อให้เกิดความไม่สะดวกในช่วงเวลาที่จะต้องเบิกตัวผู้ต้องหามาศาล เพราะที่ตั้งของเรือนจำมีความห่างไกล เดินทางยากลำบาก อาจจะก่อให้เกิดความล่าช้า ไม่สะดวก ในการเดินทางมาศาล ซึ่งอาจจะกระทบกระเทือนต่อกระบวนพิจารณาคดีของศาล
ด้วยเหตุผลข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายดังกล่าวข้างต้น จึงขอให้ศาลออกคำสั่งไปยังผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และหรือผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษธนบุรีให้ปฏิบัติตามหมายขังของศาลและกฎหมายโดยเคร่งครัด โดยให้นำตัวปิยรัฐมาคุมขังไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดยเร็ว ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม โดยให้นำตัวทั้ง จตุภัทร์ ภาณุพงศ์ และปิยรัฐมาคุมขังไว้ที่ เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ระหว่างการพิจารณาคดี