ทะเบียนรถใส่ชื่อสื่อว่า’ลิมิเต็ด’ ประมูลมาราคามีแต่จะอัพๆ

ฮือฮา !!กันพอสมควรเมื่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 2 ก.พ. 2564 อนุมัติหลักการ ร่างกฎกระทรวงกำหนดขนาด ลักษณะ และสีของแผ่นป้ายทะเบียนรถและเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีประจำปี (ฉบับที่..) พ.ศ. .…ให้ป้ายทะเบียนรถใส่ชื่อบุคคลได้

มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมลักษณะของแผ่นป้ายทะเบียนสำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน ให้สามารถกำหนดตัวอักษรมากกว่า 2 ตัว หรือตัวอักษรผสมสระ หรือวรรณยุกต์ หรือตัวเลข เมื่อผสมแล้วเป็นชื่อบุคคลก็ได้ หรือชื่อเฉพาะและแผ่นป้ายทะเบียนจะยังคงมีหมายเลขทะเบียนปรากฏ แต่ต้องเป็นชื่อที่ไม่ขัดศีลธรรมอันดี ผสมกันแล้วต้องไม่มีความหมายในทางลบ หรือเป็นคำไม่สุภาพ

…ตัวอย่างเช่น พรพรรณ 5 กรุงเทพมหานคร ,ตุ๊กตา 7 กรุงเทพมหานคร ,ทศพล1 กรุงเทพมหานคร…

ย้อนที่มาไอเดียนี้เริ่มต้นมาจาก นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ร่วมประชุมคณะกรรมการแปรรูปนโยบายเร่งด่วนของกระทรวงคมนาคมไปสู่ภาคปฏิบัติ เมื่อเดือนก.พ.ปี 63 โดยมีแนวคิดที่จะเพิ่มประสิทธิภาพกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน (กปถ.) ของกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ให้สามารถนำเงินกองทุนมาสนับสนุนและส่งเสริมด้านความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนให้ประชาชนมากขึ้น ซึ่งทะเบียนรถใส่ชื่อตัวเองได้ มีหลายประเทศใช้รูปแบบนี้เช่นที่ฮ่องกง

สำหรับรายละเอียดของป้ายทะเบียนใช้ชื่อได้ นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ให้ข้อมูลว่า เบื้องต้นราคาทะเบียนป้ายพิเศษจะอยู่ที่ 1 ล้านบาท โดยคำขอป้ายทะเบียนที่ผู้สนใจเสนอมานั้น จะนำขึ้นประกาศผ่านเว็บไซต์ของกรมการขนส่งทางบก หากไม่มีผู้สนใจป้ายทะเบียนพิเศษ ผู้ที่เสนอคำขอป้ายทะเบียนนี้เข้ามาก็จะได้รับสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของป้ายทะเบียนพิเศษนี้ได้เลย

กรณีมีผู้สนใจป้ายทะเบียน หรือเสนอคำขอที่มีชื่อซ้ำกันจะต้องเปิดประมูล โดยผู้สนใจรายใดที่ให้ราคาสูงกว่าก็จะได้รับป้ายทะเบียนพิเศษนั้นไป ซึ่งวิธีการประมูลแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ 1.ประมูลผ่านเว็บไซต์ และ 2.การประมูลด้วยวาจาผ่านห้องประมูล ทั้งนี้คาดว่าจะเปิดให้เสนอคำขออนุญาตได้ประมาณกลางปีนี้

อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า ลวดลายบนป้ายทะเบียนพิเศษนั้น ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะให้เป็นแบบป้ายปกติ หรือป้ายที่ได้จากการประมูลเลขสวย หากคนใดต้องการป้ายทะเบียนที่มีลวดลายที่ออกแบบมาเอง ก็สามารถทำได้เพราะมีกฎหมายรองรับอยู่ แต่จะต้องเป็นป้ายที่มีราคาประมูลไม่ต่ำกว่า 25 ล้านบาท เช่น ป้ายทะเบียน 1 กก 1111 กรุงเทพมหานคร ซึ่งประมูลในราคา 25 ล้านบาท

นอกจากนี้ลวดลายที่ออกแบบมาเอง จะต้องผ่านความเห็นชอบจาก กรมการขนส่งทางบกด้วย โดยต้องเป็นลวดลายที่ไม่ผิดกฎหมาย และผิดศีลธรรม คาดว่าการเปิดให้ขอทะเบียนพิเศษจะได้รับการตอบรับที่ดี และทำให้กองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน มีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 1,000 ล้านบาทต่อปี ปัจจุบัน กปถ. มีเงินอยู่ในกองทุนประมาณ 2-3 พันล้านบาท

กระทรวงคมนามคม ริเริ่มให้มีการประมูลทะเบียนเลขสวย สมัยนายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา เป็นรมช.คมนาคม โดยมีนายปิยพันธ์ จัมปาสุต ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการขนส่งทางบก ลงนามระเบียนหลักเกณฑ์ในการประมูลในปี2546 เพื่อต้องการแก้ปัญหาบรรดาวีไอพีที่มาขอล็อคเลขทะเบียนสวย แต่รัฐกลับไม่มีรายได้ จึงนำมาสู่การประมูลนำเงินเข้ากองทุนฯ โดยคัดเลขทะเบียน 301 หมายเลข แต่ละหมวดมาประมูลแข่งขัน

เลขสวยเริ่มต้นราคาหลักล้านครั้งแรกเมื่อปี 2547 คือ เลขทะเบียน ษง 9999 ได้เงินประมูลที่ 4 ล้านบาท โดยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคมในขณะนั้นเป็นผู้ครอบครอง ต่อมาทะเบียนเลขสวยที่ขยับขึ้นไปในราคา 25 ล้านอยู่ในหมวด 1กก 111 1 เป็นของนักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ จ.ชลบุรี ในปี 2557

ล่าสุดทะเบียนเลขสวยที่แพงสุดคือหมวด 8กก8888 ที่ใช้การโปรโมทในการประมูลว่า “เหนือกว่าทุกความร่ำรวย เหนือกว่าทุกการใช้ชีวิต” ซึ่งเลข 8 เป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่ง ร่ำรวยไม่มีที่สิ้นสุด เป็นตัวเลขแห่งความอมตะ ชนะประมูลในราคา 28,100,000 บาท เจ้าของเป็นแพทย์หญิงเจ้าของคลีนิคเสริมความงาม ประมูลไปเมื่อเดือนต.ค.2563

สำหรับทะเบียนเลขสวยที่กรมการขนส่งทางบกจะนำมาประมูลในปี 2564 และคาดว่าจะได้ราคาใกล้เคียงกับหมวด 8กก8888 คือ 9กก 9999 ซึ่งคนไทยเชื่อว่าเป็นเลขมงคล


ที่ผ่านมาตัวอย่างของเลขทะเบียนเบิ้ล 7 ตัวที่มีผู้สนใจประมูลด้วยเงินจำนวนมาก อาทิ 2กก 2222 ประมูลได้ 11,111,111 บาท 3กก 3333 ประมูลได้ 13,000,000 บาท 4กก 4444 ประมูลได้ 7,000,000 บาท 5กก 5555 ประมูลได้ 11,111,111 บาท 6กก 6666 ประมูลได้ 7,090,000 บาท และ 7กก 7777 ประมูลได้ 9,010,007 บาท

รายได้จากการประมูลทะเบียนรถเลขสวย ตั้งแต่ ม.ค.-ต.ค.2563 พบว่ามีรายได้รวม 1,053,905,273 บาท แบ่งเป็น ส่วนกลาง 602,269,647 บาท และ ส่วนภูมิภาค 451,635,626 บาท

ความต่างระหว่างทะเบียนรถประมูล อยู่ที่มีมูลค่าหายากและราคาจะไม่ลดลงไปกว่านี้อีกแล้ว เพราะเป็นป้าย 1 เดียว สำหรับผู้มีฐานะ จึงถือว่าเป็นการลงทุน แต่ทะเบียนรถมีชื่อเป็นลิมิเต็ด สำหรับตัวเจ้าของเอง ครั้นจะขายต่ออาจจะไม่ได้ราคา เพราะน้อยคนที่จะมีชื่อตรงกันเอาไว้ ยกให้เป็นเครื่องบ่งบอกว่าเป็นผู้มีฐานะที่สามารถนำเงินจำนวนสูงแลกป้ายทะเบียนพิเศษมาได้ ...และมีส่วนช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากท้องถนนไม่ต่างกัน


———————————


คอลัมน์ มุมคนเมือง


โดย ทีมข่าวนวัตกรรมขนส่ง