
หลังจากนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าจะจัดเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ในกลางปี 2565 ได้มีการเคลื่อนไหวจากหน่วยงานที่มีหน้าที่จัดการเลือกตั้ง โดย นายสำราญ ตันพานิช ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร (ผอ.กกต.กทม.) ส่งหนังสือด่วนหลายฉบับ ถึงผู้อำนวยการเขต 50 เขตใน กทม. เพื่อแจ้งแนวทางการเลือกตั้งและมาตรการป้องกันโรคระบาดในการลงคะแนนเลือกตั้ง ได้แก่ หนังสือแจ้งแนวทางการพิจารณาแต่งตั้งผู้มีสิทธิเลือกตั้งเป็นเจ้าพนักงานผู้ดำเนินการเลือกตั้ง และต่อมามีหนังสือด่วนที่สุดเรื่อง แนวทางการกำหนดที่เลือกตั้ง และหน่วยเลือกตั้ง โดยระบุว่า ศบค.เห็นว่า จำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งหน่วยเลือกตั้งละ 600 คน เป็นจำนวนที่เหมาะสมเพียงพอต่อการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพในระดับหนึ่ง
และยังส่งหนังสือด่วนที่สุด มีข้อความคาดว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) จะมีมติให้มีการเลือกตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทั้ง 2 แห่งพร้อมกัน ดังนั้น กกต.จึงประสานเพื่อชี้แจงเกี่ยวกับกระบวนการขั้นตอนว่า เมื่อ ครม.เห็นสมควรให้มีการเลือกตั้ง กกต.จะประกาศกำหนดให้มีการเลือกตั้งภายใน 60 วัน เมื่อประกาศแล้ว ให้ประกาศ คสช. และคำสั่งหัวหน้า คสช.ทุกฉบับที่เกี่ยวกับการงดจัดเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร หรือผู้ว่าฯ กทม. สิ้นผลบังคับ ให้ผู้ว่าฯ กทม. ประธานสภา กทม. รองประธานสภา กทม. ที่ดำรงตำแหน่งอยู่ปัจจุบัน ยังคงดำรงตำแหน่งต่อไปจนถึงวันก่อนวันเลือกตั้ง และหาก ส.ก.จะลงสมัคร ต้องลาออกจากตำแหน่งใน 3 วัน นับตั้งแต่วันที่ กกต.ประกาศกำหนดวันเลือกตั้ง หากไม่ได้ลาออกภายในกำหนดเวลาดังกล่าว ไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ กทม. หรือ ส.ก.
ถือเป็นความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ ซึ่งขณะนี้ พรรคต่างๆ เริ่มทยอยเปิดตัวผู้สมัคร โดยได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นอย่างดี การเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งซ่อม ส.ส. การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. หรือเมืองพัทยา จะเป็นตัวชี้วัดไปพร้อมกันว่า ประชาชนกำลังคิดอย่างไร มีความเห็นต่อสภาพบ้านเมืองอย่างไร เป็นเสียงที่รัฐบาลและพรรคการเมืองจะต้องรับฟัง เพื่อนำไปปรับปรุงนโยบาย หรือกำหนดนโยบายให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนให้มากที่สุด
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก
Line @Matichon ได้ที่นี่

