ประมวลการชุมนุม ‘ราษฎร’ เคาะกระทะ-เครื่องครัว เต็มลานหน้าหอศิลป์ กทม. ทวง 3 ข้อเรียกร้อง ไล่ประยุทธ์และองคาพยพ ร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน รวมทั้งปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ พร้อมจี้ปล่อยตัว ‘เพนกวิน-อานนท์-สมยศ-หมอลำแบงค์’
10 ก.พ.2564 จากกรณี ‘ราษฎร’ นัดหมายแสดงพลังที่สกายวอล์ค แยกปทุมวัน เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลและสถาบันกษัตริย์ต้องตอบรับใน 3 ข้อเรียกร้องของประชาชน 1. ประยุทธ์และองคาพยพต้องออกไป 2. ร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน และ 3. ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ภายหลังจากอัยการสั่งฟ้องและศาลไม่ให้ประกันตัว พริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน, อานนท์ นำภา, สมยศ พฤกษาเกษมสุข และปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม (ปฏิภาณ ลือชา) หรือหมอลำแบงค์ ในคดี หมิ่นประมาทกษัตริย์ ตาม ม.112 นั้น
ล่าสุดวันนี้ (10 ก.พ.64) เวลา 16.15 น. ที่บริเวณสกายวอล์ค หน้าห้าง MBK แยกปทุมวัน ประชาชนเริ่มทยอยเดินทางเข้าชุมนุมบริเวณดังกล่าว พร้อมเตรียมป้ายข้อความ และเครื่องครัวหลากหลายรูปแบบมาเคาะเป็นจังหวะ นอกจากนี้ยังมีการโปรยสติกเกอร์ ยกเลิก ม.112
โดยก่อนหน้านั้น เวลา 15.06 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 100 นาย ตั้งแถวที่บริเวณหน้า MBK นอกจากนี้ ยังพบรถฉีดน้ำและตำรวจชุดควบคุมฝูงชน บริเวณสนามศุภชลาศัย ครึ่งชั่วโมงจากนั้นพบเจ้าหน้าที่ตำรวจและชุดควบคุมฝูงชนประจำการอยู่ 2 จุด คือ บนสกายวอล์คด้านหน้าห้าง MBK ฝั่ง Tokyu เก่า ตรงข้ามหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (BACC) และด้านในสนามกีฬาแห่งชาติ หรือ ศุภชลาศัย ซึ่งมีอุปกรณ์โล่ และกระบอง และเวลา 15.50 น. ตำรวจตรึงกำลังบริเวณทุกทางเข้าของสกายวอล์คแยกปทุมวัน โดยตำรวจควบคุมฝูงชนสวมเครื่องป้องกันพร้อมโล่ ขณะที่ตำรวจท้องกั้นแผงเหล็กทุกจุดที่เข้าสู่สกายวอล์คเพื่อตรวจกระเป๋าประชาชนก่อนเข้าสู่พื้นที่ เบื้องต้นในเวลานี้ BTS ยังเปิดให้บริการตามปกติ
ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่าเมื่อเวลา 16.15 มีผู้หญิงคนหนึ่งถูกตำรวจควบคุมตัว หลังพยายามพ้นข้อความสีชมพู โดยมีข้อความเพียง “no ju” ซึ่งคาดว่าต้องการพ้นว่า “no justice no peace” pic.twitter.com/dTuVyq4UkF
— prachatai (@prachatai) February 10, 2021
เวลา 16.15 น. ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า มีผู้หญิงคนหนึ่งถูกตำรวจควบคุมตัว หลังพยายามพ้นข้อความสีชมพู โดยมีข้อความเพียง “no ju” คาดตำรวจนำตัวผู้หญิงคนดังกล่าวที่พยายามพ้นข้อความสีชมพูไป สน.ปทุมวัน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ให้พนักงานทำความสะอาดเช็ดข้อความที่หญิงคนดังกล่าวพยายามพ้นออกแล้ว ต่อมาเวลา 17.05 น. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า มีอีกคนที่โดนจับไปด้วย คือภูมิ ศศลักษณ์ ตอนนี้ถูกนำตัวไป สน. ปทุมวัน เช่นกัน
เวลา 16.41 น. ผู้ชุมนุมบางส่วนทยอยเดินลงข้างล่าง ไปรวมตัวที่ฝั่งด้านหน้า BACC ต่อมาเวลาประมาณ 16.55 น. ผู้ชุมนุมติดตั้งเครื่องเสียงเสร็จ
เวลา 17.05 น. เจ้าหน้าตำรวจประกาศเตือนตามข้อกำหนดใน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ บริเวณถนนพระราม 1 หน้าห้าง MBK ในขณะที่เวลาประมาณ 16.57 น. ผู้ชุมนุมหน้าหอศิลป์ ชูสามนิ้วพร้อมตะโกนว่า “ศักดินาจงพินาศ ประชาราษฎร์จงเจริญ” “ปล่อยเพื่อนกู” และ “ยกเลิก 112” หลังจากนั้นประกาศให้มวลชนลงมารวมตัวกันที่ลานหน้าหอศิลป์แทน
นอกจากนี้ยังพบผู้ร่วมชุมนุมถือป้ายต้านรัฐประหารพม่าบริเวณดังกล่าวเช่นกัน
เวลา 18.00 น. ผู้ดำเนินรายการวงปราศรัยหลัก ชวนผู้ชุมนุมร่วมกิจกรรมชูสามนิ้ว ระหว่างเพลงชาติดังขึ้น ระหว่างนั้นมีรายงานว่า พบเจ้าหน้าทีปลดป้ายที่เขียนว่า “มีคนตายเพราะ 112” ไป กลุ่มผู้ชุมนุมจึงตามมาเอาคืน iLaw รายงานด้วยว่า ตำรวจเก็บป้ายผ้าที่แขวนบนสกายวอล์คหนึ่งในนั้นเขียนว่า “เราจะต่อสู้กับผู้เหยียบย่ำเราเยี่ยงสัตว์ ด้วยความเป็นมนุษย์” แล้วเดินเอาป้ายผ้าเข้าไปหลังรั้วเหล็กบริเวณหน้าห้างMBK ทำให้ผู้ชุมนุมส่วนหนึ่งไม่พอใจ ผู้สังเกตการณ์เห็นว่าป้ายถูกเก็บอย่างน้อย 3 ผืน
18.00 ตำรวจเก็บป้ายผ้าที่แขวนบน Skywalk หนึ่งในนั้นเขียนว่า “เราจะต่อสู้กับผู้เหยียบย่ำเราเยี่ยงสัตว์ ด้วยความเป็นมนุษย์” แล้วเดินเอาป้ายผ้าเข้าไปหลังรั้วเหล็กบริเวณหน้าห้างMBK ทำให้ผู้ชุมนุมส่วนหนึ่งไม่พอใจ
ผู้สังเกตการณ์เห็นว่าป้ายถูกเก็บอย่างน้อย 3 ผืน#ม็อบ10กุมภา pic.twitter.com/wkf8xKxb5w
— iLawFX (@iLawFX) February 10, 2021
มุ่งสู่ สน.ปทุมวัน จี้ปล่อยตัว 4 นักกิจกรรม
เวลา 19.19 น. รุ้ง ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล ปราศรัยบนเวทีหลัก วิจารณ์เรื่องการฝากขังนักกิจกรรมทางเมือง 4 คน เมื่อวาน พร้อมถามถึงรัฐ ทำไมถึงจงเกลียดจงชังนักกิจกรรมเพื่อประชาธิปไตย
“เขาแค่ต้องการประชาธิปไตย และต้องการคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น แต่ทำไมสถาบันฯ ถึงกลัวพวกเขานัก พวกเขาเป็นแค่นักศึกษา เมื่อวาน เป็นวันเปิดศักราชต่อสู้กับศักดินา และมาชุมนุมกันมากกว่าเมื่อวานถึงสี่เท่า
“รัฐบาลคุณประเมินเราต่ำไป อย่าคิดว่าสถานการณ์โควิด-19 ระบาด จะทำให้คนลืมข้อเรียกร้อง 3 ข้อ 1. ประยุทธ์ต้องลาออก 2. ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ที่มาจากประชาชน และ 3.การปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ให้อยู่ใต้รัฐธรรมนูญ
“วันนี้จะไม่ได้อยู่แค่ตรงนี้เฉย ๆ เพื่อนเราสิบคนถูกจับไป ไม่ว่าเขาจะเป็นใครก็ตาม ทุกคนสำคัญ เราจะไม่ยอมให้ตำรวจมาควบคุมตัวเพื่อน ๆ จะไม่ยอมให้มีใครถูกจับไปอีก ขอให้ทุกคนไปกับเรา” รุ้งกล่าว
รุ้งประกาศ ขอให้มวลชนเคลื่อนขบวนไปที่ สน.ปทุมวัน เพื่อไปเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ถูกจับกุมวันนี้
19.10 น. ประชาชนปิดการจราจรถนนพระรามที่ 1 ตั้งแต่ซอยเกษมสันต์ 1 ถึงแยกปทุมวัน แต่ยังยอมให้รถประจำทางผ่านได้ตามเส้นทางเดินรถปกติ
เวลา 19.42 น. ผู้ชุมนุมเคลื่อนตัวถึง สน.ปทุมวัน ตำรวจชุดควบคุมฝูงชนและรถตู้ตำรวจ ตั้งเป็นแถวปิดทางเข้า-ออก เพื่อสกัดมวลชนไม่ให้เข้าถึงหน้า สน.
ขณะที่ผู้นำขบวนมวลชน ขอให้มวลชนสงบนิ่ง และใจเย็น โดยบอกว่า เรามาเพื่อเจรจา ไม่ได้ตั้งใจใช้ความรุนแรง
19.54 น. ไมค์ ภาณุพงศ์ จาดนอก ระบุให้ เวลาตำรวจถึง 20.30 น. ต้องปล่อยตัวผู้ที่ถูกควบคุมตัวทั้งหมด รวมทั้งเยาวชนที่ถูกควบคุมที่เหลืออีก 2 คน หากตำรวจไม่ยอมปล่อย ไมค์จะให้มวลชนบุกเข้าไปใน สน. ปทุมวันทันที
เวลา 20.47 น. ผู้ถูกจับกุมตัวมาช่วงเย็นถูกปล่อยตัวครบแล้ว จากนั้นเวลา 20.52 น. ‘ครูใหญ่’ อรรถพล บัวพัฒน์ หนึ่งในแกนนำปราศรัยว่า แม้ว่าทุกคนวันนี้ได้รับการปล่อยตัวหมดแล้ว แต่อีก 4 คนที่ถูกฝากขังเมื่อวาน และอัญชัญ ยังไม่ได้รับการประกันตัว เพราะฉะนั้น จะต้องสู้ต่อไป
เวลา 20.55 น. รุ้ง ปนัสยา ปราศรัยขอบคุณผู้ชุมนุมหน้า สน. พร้อมยึดแนวทางต่อสู้สันติวิธี คือการสร้างความชอบธรรมในการผลักดันประเด็นต่างๆ พร้อมประกาศเป้าหมายนำมวลชนลงถนนครบ 3 ล้านคน หากเราออกมาจำนวนมากขึ้นเท่าไหร่ ความหวังปฏิรูป ก็จะมีมากขึ้น
หลายคนอาจสงสัยทำไมเงียบจัง แต่ทุกคนไม่ได้หายไปไหน แต่รอจังหวะว่าจะกลับมาตอนไหนที่ทำให้เขาตั้งตัวไม่ทัน อยากให้ทุกคนเตรียมพร้อมในการลงถนนสู้ด้วยกัน ขอให้ทุกคนตั้งสติ เตรียมพร้อมในทุก ๆ วัน
รุ้ง ปราศรัยถึงการชุมนุมครั้งต่อไปว่า จะมีการประกาศวันต่อวัน ทางเพจแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม และเพจราษฎร ขอให้ทุกคนติดตาม วันที่ 16 และ 19 ก.พ. จะมีการทำกิจกรรมปราศรัยไม่ไว้วางใจนอกสภา แต่ที่ไหนยังไม่เผย จากนั้นประกาศยุติการชุมนุม มวลชนเริ่มทยอยแยกย้ายกลับ
สำหรับเยาวชน 2 คนที่ถูกจับกุมจากที่ชุมนุมช่วงเย็นวันนี้ iLaw รายงานว่า ราว 21.00 น. ได้ประกันตัวคนละ 5,000 บาท และปล่อยตัวออกมาแล้ว ตำรวจนัดหมายไปที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ในวันรุ่งขึ้น เวลา 10.00 น.
หมอทศพรเดินทางมาให้กำลังใจผู้ชุมนุมพร้อมช่วยดูแลความปลอดภัยหากเกิดเหตุฉุกเฉิน
นพ.ทศพร เสรีรักษ์ เดินทางมาร่วมทำกิจกรรมบริเวณสกายวอล์ก แยกปทุมวัน พร้อมนำภาพเหมือนของนักกิจกรรมทั้ง 4 คนที่เพิ่งถูกศาลฝากขังเมื่อวาน (9 ก.พ. 2564) ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 มาแสดงเพื่อให้มวลชนร่วมกันเขียนข้อความให้กำลังใจ
ทศพร เผยว่า วันนี้มาเพราะห่วงเรื่องความปลอดภัยของผู้ชุมนุม พร้อมเตรียมอุปกรณ์ทำแผลเบื้องต้น และยาหยอดตามาเผื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน โดยมีกลุ่มเพื่อนที่เป็นหน่วยพยาบาลอาสามาร่วมดูแลความปลอดภัยอีกหลายคน
นอกจากนี้ ทศพร ยังฝากถึงผู้ชุมนุมทุกคนว่า ขอให้สู้ต่อไปอย่างมีสติ เพราะคนรุ่นใหม่ล้วนมีพลังและมีความรู้ แต่ยังขาดประสบการณ์ พร้อมฝากไปยังรัฐบาลให้หยุดสร้างเงื่อนไขการชุมนุม และหันหน้ามาเจรจากันอย่างสันติ
“อยากจะบอกให้ต่อสู้กันต่อไป แต่ต้องมีสติ สิ่งสำคัญที่สุดคือประสบการณ์ น้องๆ มีพลัง มีความรู้ แต่สิ่งที่ขาดคือประสบการณ์ มันไม่เหมือนผมที่เคยเจอทั้งเหตุการณ์ 14 ตุลาฯ 2516 หรือ 19 พฤษภาฯ 2535 ประสบการณ์ทุกอย่างที่มันอยู่ในหัวทำให้รู้ว่าเราจะเดินไปทางไหนอย่างไร แต่น้องๆ ยังขาดในเรื่องนี้ มีพลังดีแล้ว แต่ก็ต้องมีสติมากๆ และฝากไปถึงรัฐบาล นายกฯ หรือผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหลาย อย่าสร้างเงื่อนไขให้มีการชุมนุมเลย รีบหยุดทุกอย่างแล้วมาเจรจากันดีกว่า” ทศพรกล่าว
แรปเปอร์ ‘Elevenfinger’ ระบุ “ไม่กลัว ยังมีคนอื่นโดนหนักกว่านี้” หลังเข้ารับทราบข้อกล่าวหา ม.116
ประชาไทสัมภาษณ์ ‘บุ๊ค’ หรือธนายุทธ ณ อยุธยา หรือแรปเปอร์ aka ‘Elevenfinger’ ช่วงเช้าวันนี้ ขณะเดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหา ม. 116 ที่ สน.พหลโยธิน จากกรณี ชุมนุมห้าแยกลาดพร้าว
บุ๊ค เล่าว่า เขาพลาดโอกาสร่วมชุมนุมเมื่อวาน วันนี้อยากมาแสดงจุดยืนร่วมกับทุกๆ คน และม็อบครั้งหน้า และครั้งต่อๆ ไป ก็จะพยายามไป อย่างน้อย เป็นตัวแทนเยาวชนที่เขายังไม่กล้าออกมา ผมอยากจะออกมาพูดแทนเขาหลาย ๆ เรื่อง และอยากให้เยาวชนออกมาแสดงจุดยืนร่วมกับพวกเรา
ส่วนเรื่องการใช้มาตรา 112 กับนักกิจกรรม บุ๊ค มีความเห็นว่า มันสะท้อนชัดเจนถึงการพยายามจำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชน และศิลปิน
“มันบ่งบอกชัดเจนว่า รัฐต้องการจำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชน ทั้งที่ประชาชนควรมีสิทธิ์การแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ทั้งเพลงและงานศิลปินก็ดี ทุกคนก็โดนเล่นงานกันหมด”
ส่วนเรื่องคดีที่กำลังเผชิญ บุ๊คกล่าวว่าอาจจะโดนหมายอื่น ๆ ตามมาอีก แต่เขาไม่กังวล
“ไม่กังวล และไม่กลัว ยังมีคนอื่นโดนหนักกว่านี้ และผมคิดว่าผมอยากออกมาต่อสู้แทนพวกเขา”
ส่วนเรื่องที่อยากฝากถึงรัฐ บุ๊คมองว่า รัฐกำลังคุกคามประชาชนอยู่ และกำลังทำให้เรื่องนี้รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ รัฐควรแก้ปัญหาโดยการนำประชาธิปไตยกลับมาสู่ประเทศนี้อีกครั้ง และให้ประชาชนมีส่วนร่วมกับประชาธิปไตย
‘ไมค์ ระยอง’ ย้ำต้องปฏิรูปสถาบันกษัตริย์เพื่อประโยชน์ทุกคน ระบุสลายชุมนุมไม่ชอบด้วยกฎหมาย
เวลา 17.45 น. ไมค์ ภาณุพงศ์ จาดนอก ขึ้นปราศรัย ระบุว่าการพยายามสลายการชุมนุมของตำรวจไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขัดกับหลักสากล ที่จะสลายการชุมนุมต้องขอคำสั่งศาลก่อนถึงจะสลายได้ “ไม่ใช่ไม่พอใจใครก็สลาย”
นอกจากนี้ ไมค์ย้ำสามข้อเรียกร้องหลักต่อเนื่อง 1. ประยุทธ์ต้องลาออก 2. ร่าง รธน.ใหม่ที่มาจากประชาชน ไม่ใช่คนบนฝ้า และ 3. ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ถ้าทำไม่ได้ ก็ต้องปฏิวัติ
“นี่ไม่ใช่คำขู่ของประชาชน แต่นี่คือความคิดของประชาชน เพราะมีแล้วไม่มีประโยชน์” ไมค์ระบุ
ไมค์ระบุที่มาเรียกร้องครั้งนี้ต้องการให้ประเทศพัฒนา และการเรียกร้องครั้งนี้ทุกคนจะได้รับผลประโยชน์
“ฝากถึง รัฐและ ‘เจ้านายของท่าน’ ว่า ประชาชนอดอยากแร้นแค้นจะตายแล้ว พวกเขารอไม่ได้ ให้เจ้านายท่านโยนมงกุฎให้แหลกสลาย แล้วนำเศษแจกจ่ายให้ประชาชน” ไมค์กล่าว
‘ศรีไพร’ ตัวแทนสหภาพแรงงานระบุ รัฐสวัสดิการจะเกิดได้ต้องตัดงบทหาร งบกษัตริย์ ภาษีประชาชนควรมาจุนเจือชีวิตประชาชน
เวลา 18.50 น. ศรีไพร นนทรีย์ เจ้าหน้าที่จัดตั้งกลุ่มสหภาพแรงงานย่านรังสิตและใกล้เคียง (กสรก.) ปราศรัยเรื่องการเยียวยาตาม ม.33 ว่า ถ้าไม่เรียกร้องกับประยุทธ์จะเรียกร้องกับใคร เงิน 4,000 แบ่งจ่ายเป็นงวด แต่แรงงานข้ามชาติไม่ได้เลย ผู้นำแรงงานคนนั้นกลับขอบคุณรัฐมนตรีกันใหญ่ บางคนขอทุนมาทำงานกับแรงงานข้ามชาติ แต่ถึงที่สุดไม่สู้เพื่อแรงงานข้ามชาติ ไม่ได้สู้เพื่อแรงงานจริงๆ
“เราต้องการการเยียวยาถ้วนหน้า ไม่ใช่ชิงโชค อย่ามาบอกว่าการเยียวยา ม.33 เปลือง” ศรีไพรกล่าว
ศรีไพรยังกล่าวว่า การดูแลคนป่วยยากลำบากมาก คนในสถาบันกษัตริย์ก็ป่วย แต่มีคนดูแลตลอด 24 ชั่วโมง ทำไมคนจนไม่มีคนดูแลแบบนี้บ้าง จะบอกว่าเป็นเพราะกรรมเก่า รู้หรือว่าชาติที่แล้วเกิดเป็นอะไร ไม่เป็นวิทยาศาสตร์ แต่ความเหลื่อมล้ำเป็นของจริงที่ต้องแก้ไข
ศรีไพร เปรียบเทียบกับนิวซีแลนด์ ที่มีคนดูแล เข้าถึงหมอได้ ดูแลจนวินาทีสุดท้าย ขณะที่ประเทศไทยเป็นแบบนี้เพราะการใช้งบประมาณซื้อเรือดำน้ำ ยุทโธปกรณ์ที่ไม่ได้ใช้ และงบสถาบัน 3 หมื่นล้าน เช่นนั้นแล้วคนจนๆ จะไม่กู้หนี้ยืมสินได้อย่างไร นี่คือความเหลื่อมล้ำ รัฐสวัสดิการจะเกิดได้ต้องตัดงบทหาร งบกษัตริย์ ท่านก็รวยอยู่แล้ว ภาษีประชาชนตรงนี้ควรมาจุนเจือชีวิตประชาชนใช่หรือไม่
สำหรับการชุมนุมครั้งนี้เป็นการชุมนุมต่อเนื่องจากวานนี้ หลังอัยการสั่งฟ้องคดีข้อหาหมิ่นประมาทกษัตริย์ ตาม ม.112 ใน 2 คดีชุมนุม ได้แก่ ชุมนุม 19 กันยาฯ ทวงอำนาจคืนราษฎร และชุมนุม Mobfest ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อ 14 พ.ย.2563 กับ พริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน, อานนท์ นำภา, สมยศ พฤกษาเกษมสุข และปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม (ปฏิภาณ ลือชา) หรือหมอลำแบงค์ โดยที่ศาลมีคำสั่งไม่ให้ประกันตัว โดยระบุว่าเนื่องจากอัตราโทษสูง พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง อีกทั้งการกระทำซ้ำๆ ตามข้อกล่าวหาเดิมหลายครั้ง มีเหตุควรเชื่อว่าหากอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว จำเลยอาจไปก่อเหตุลักษณะเดียวกันกับความผิดที่ถูกกล่าวหาอีก
อีกทั้งหลังการเคลื่อนไหวเรียกร้อง 3 ข้อประกอบด้วย 1. ประยุทธ์และองคาพยพต้องออกไป 2. ร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน และ 3. ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ตั้งแต่กลางปีที่แล้ว ราว 200 วัน ข้อเรียกร้องเหล่านั้นไม่ได้รับการตอบสนอง รัฐบาลหรือสถาบันกษัตริย์ ขณะที่การดำเนินคดีด้วยมาตรา 112 ระลอกใหม่ที่เริ่มขึ้นมาตั้งแต่ 24 พ.ย.2563 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า ณ วันที่ 8 ก.พ.2564 กลับมาอีกครั้งจำนวนมาก โดยมีทั้งหมดแล้ว 58 คน 44 คดี ในขณะนี้พริษฐ์มีคดีรวมเพิ่มเป็น 16 คดี และอานนท์ 9 คดี