เผยแพร่: ปรับปรุง: โดย: ผู้จัดการออนไลน์
ช่วงเวลาที่ผ่านมา ก่อนโควิดระบาด ค่ายรถ นิสสัน ประเทศไทย เชิญสื่อมวลชนร่วมทดสอบการขับขี่ นิสสัน นาวารา ใหม่ ในสไตล์เที่ยวแคมป์ปิ้ง จากกรุงเทพฯ สู่จังหวัดกาญจนบุรี โดยทริปนี้มีแต่สื่อมวลชนผู้หญิงเข้าร่วมทดสอบความแกร่งอันเป็นตำนานของ นิสสัน นาวารา
กิจกรรมครั้งนี้นิสสัน พยายามจะตอกย้ำความยอดเยี่ยมของรถกระบะที่ ‘กล้า…เพื่อคนแกร่ง หรือ Driven by the Brave ที่นาวารา ใหม่ได้การยอมรับในด้านความแข็งแกร่งและความทนทานรวมถึงรูปลักษณ์ภายนอกที่มีสไตล์ และใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพทั้งภายนอกและภายใน
การเดินทางเริ่มต้นจากใจกลางเมืองกรุงเทพฯ มุ่งสู่จังหวัดกาญจนบุรี ขับแบบไป-กลับวันเดียวรวมระยะทาง 414 กิโลเมตร พร้อมไปกินอาการกลางวันแบบชิว ๆ ที่ไร่ย่าแย้ม โดยมีนิสสัน นาวารา ใหม่ ให้ลองขับสามรุ่น ได้แก่ รุ่นท็อปอย่าง Double Cab VL และรุ่นตกแต่งพิเศษ Double Cab PRO-4X กับ Double Cab PRO-2X ซึ่งคันของผู้เขียนได้รุ่นตกแต่งพิเศษ Double Cab PRO-4X และผู้ร่วมทดสอบอีก 2 สื่อ รวมเป็น 3 คนในหนึ่งคัน สลับกันขับ สำหรับเส้นทางทดสอบมีหลากหลายทั้งบนถนนทางหลวง และแบบออฟโรด ซึ่งนาวารา ใหม่ ก็ไม่ได้ทำให้ผิดหวังและจาการสัมผัส ต้องบอกว่าเป็นรถกระบะคันใหญ่ที่ขับง่าย นั่งสบาย ทั้งด้านหน้า-หลัง
ในช่วงแรกเส้นหลักจากกรุงเทพฯไปกาญจนบุรีเป็นถนนหลวงขับแบบสบาย ๆ ตาม ๆ กันมา กำลังของเครื่องยนต์ดีงามมาก การตอบสนองในทางยาวๆ กดคิกดาวน์ ตอบสนองฉับไวในยามเร่งแซง แม้เส้นทางจะมีทางเขาสูงชันและคดเคี้ยว กำลังเครื่องยนต์ให้ความต่อเนื่องไม่ขาดตอน เกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด ถึงแม้จะเป็นลูกเก่าจากเครื่องยนต์เดิมแต่ยังสร้างความประทับใจในการเรียกกำลังสำหรับขึ้น-ลงทางลาดชัน เร่งแซงดีไม่กระตุก
สำหรับพวงมาลัย มีการปรับปรุงใหม่โดยมีน้ำหนักเบาขึ้นกว่าเดิม 15 % คมขึ้นไม่ว่าจะขับเข้าโค้งทุกโค้งก็มั่นใจ ควบคุมง่ายขับแล้วสบายๆ ส่วนช่วงล่างมีความหนึบไม่ย้วย นุ่มนวลขึ้นกว่าเดิม ทั้งนี้เป็นเพราะนิสสัน ได้มีการปรับจูนช่วงล่างหน้า-หลังใหม่ การเก็บเสียงดีกว่ารุ่นเก่า ระบบเบรกต้องใช้ระยะเบรกที่ยาวขึ้นนิดหน่อย นอกจากนี้ยังปรับปรุงระยะความสูงจากพื้นถึงใต้ท้องรถ หรือ ground clearance ยังช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถลุยขึ้นและลงเขาผ่านอุปสรรคต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย
ระบบความปลอดภัยในรุ่นนี้มาครบ แต่ที่อยากชื่นชมคือระบบกล้องรอบคัน เพราะช่วงขากลับเข้ากรุงเทพบังเอิญมีอุบัติเหตุนิดหน่อย เพื่อเลี่ยงรถติด เจ้าหน้าที่ของนิสสัน แจ้งให้เราขับมาทางลัด ซึ่งเป็นชุมชนเล็กหลังซอยโรงพยาบาลเซนต์หลุยส์เพื่อเข้าไปยังโรงแรมอิสติน ถนนเป็นเลนเดียวแคบมาก และมีช่วงหนึ่งที่ความกว้างของถนนมันพอดีกับตัวรถ พวกเราทุกคนเลยอาศัยกล้องรอบคันดูว่าจะขับอย่างไรให้รถแล่นผ่านไปได้โดยที่ไม่เบียดกำแพง 2 ข้าง ก็ต้องค่อย ๆ ย่อง ๆ ไป สมาชิกช่วยกันดูซ้าย-ขวา แม้กระทั้งมอไซด์ในซอยก็จอดลุ้นไปด้วยกัน ซึ่งกว่าจะผ่านพ้นจากจุดนั้นมาเล่นเอาสาว ๆ ในทริปตื่นเต้นมากกลัวจะขับไม่รอด แต่สุดท้ายทุกคันก็ผ่านมาได้ เพราะรถนิสสัน นาวารา คันใหญ่มาก
นิสสัน นาวารา ใหม่ คันนี้มากับเครื่องยนต์ดีเซลใหม่ YS23DDTT ขนาด 2.3 ลิตร พร้อมเทอร์โบคู่ ที่ให้พละกำลังสูงสุด 190 แรงม้า (Ps) ให้แรงบิดสูงสุดถึว 450 นิวตัน-เมตร เกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด ที่ให้กำลังในการขับเคลื่อนสูง แต่ยังให้การประหยัดน้ำมันได้เป็นอย่างดี
การออกแบบ ภายใต้แนวคิด “Unbreakable” ที่เป็นเอกลักษณ์ใหม่ของรถกระบะของ นิสสัน นาวารา ใหม่ โดดเด่นด้วยกระจังหน้า แบบ ‘Interlock’ ใหม่ และไฟหน้าแอลอีดี 4 ดวงคุณภาพสูงรูปทรงสี่เหลี่ยม (Ice-Cube) พร้อมไฟส่องสว่างในเวลากลางวัน หรือ Daytime Running Lights เสริมด้วยไฟท้ายแอลอีดีแบบชิ้นเดียว ที่ทำให้ได้ลุคที่ดุดัน ทนทานมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ นิสสัน นาวารา ยังพร้อมบรรทุกสัมภาระหนัก ด้วยโมโนเฟรมแชสซี ที่ทำจากเหล็กกล้าชิ้นเดียวตลอดคันแบบ Fully-Boxed Frame ที่มีชื่อเสียงของนิสสัน ในส่วนของพื้นที่กระบะตอนท้าย นิสสัน นาวารา ใหม่ ยังมาพร้อมสเต็ปด้านท้ายรถ เพื่อความสะดวกสบายในการใช้งานขึ้นลง ลดความเมื่อยล้าที่เกิดจากการขนถ่ายขึ้นลงซ้ำ ๆ และจุดตะขอยึดใหม่ เพื่อตอบโจทย์การบรรทุกสัมภาระทั้งขนาดใหญ่และเล็ก
ด้านการตกแต่งภายในของ นาวารา ใหม่ ได้เสริมความสะดวกสบายขณะเดินทางไกล ไม่ว่าจะเป็นเบาะนั่งคู่หน้าที่ออกแบบด้วยนวัตกรรม Zero Gravity ทำให้สามารถรองรับกับแนวกระดูกสันหลัง ตามหลักสรีรศาสตร์ และที่นั่งตอนหลังที่ดูทันสมัย และเสริมความนุ่มสบาย รวมถึงยังเพิ่มความสะดวกด้วยที่วางแขนและแก้วน้ำด้านหลังอีกด้วย
ไม่เพียงเท่านั้น นิสสัน นาวารา ใหม่ ยังสามารถเชื่อมต่อทุกแพลตฟอร์มความบันเทิงตลอดการเดินทาง ด้วย Nissan Connect ระบบที่สามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน (ผ่านระบบ Apple CarPlay และ Android Auto*) เข้ากับระบบสื่อสาร ระบบนำทาง และระบบเครื่องเสียง ซึ่งสามารถควบคุมผ่านหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว หรือผ่านระบบจดจำและสั่งการด้วยเสียง (Voice Recognition system) รวมถึงยังเพิ่มเติมความปลอดภัยให้อุ่นใจตลอดการเดินทาง ผ่านบริการ Connected Car Services ที่เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างอุปกรณ์ TCU (Telematics Control Unit) ที่ติดตั้งภายในรถยนต์ และฟังก์ชันสำคัญต่าง ๆ อาทิ การแสดงพิกัดรถยนต์ สถานะรถยนต์ การช่วยเหลือฉุกเฉิน รวมถึงยังสามารถชาร์จแบตเตอรี่อุปกรณ์ไฟฟ้าผ่าน USB Port (Type C) ในแผงควบคุมด้านหน้าได้อีกด้วย
สำหรับ นิสสัน นาวารา ใหม่ รุ่น Double Cab PRO-4X และรุ่น Double Cab VL มาพร้อมเทคโนโลยีขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ 4×4 (4WD) ที่เพิ่มความสะดวกในการใช้งานให้ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนจากการขับขี่แบบสองล้อ หรือ Two-wheel drive (2H) เป็นระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ หรือ Four-wheel drive ผ่าน Rotor Switch ที่บริเวณแผงคอนโซลกลาง พร้อมฟังก์ชัน shift-on-the-fly ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ขณะขับขี่ (จาก 2H เป็น 4H) ขณะที่โหมดการขับเคลื่อน 4 ล้อแบบความเร็วต่ำ Low range four-wheel drive หรือ 4LO ช่วยให้สามารถการขับขี่ไปได้แม้บนพื้นที่ทุรกันดาร อาทิ ทราย โคลน ลุยน้ำ ปีนขึ้นที่สูงชัน หรือลงในเส้นทางลาดชัน
นอกจากนี้ ยังเสริมเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพกับแนวคิดเพื่อการขับขี่ที่ ‘ลุยได้ทุกที่’ ของนิสสัน นาวารา อีกมากมาย อาทิ ระบบป้องกันการลื่นไถล Brake Limited Slip Differential (B-LSD) ที่จะส่งแรงไปยังล้อที่ลื่นไถลให้การออกตัวได้แม้ในที่ลื่น พร้อมกระจายแรงขับขี่ไปที่ล้อแต่ละข้างเมื่อขับขี่ในโหมด 4H ขณะที่ระบบล็อกเฟืองท้ายแบบไฟฟ้า Electronic Rear Locking Differential ยังช่วยเสริมกำลังฉุดเมื่อขับขี่ในสถานการณ์ที่ต้องการแรงบิดสูงในโหมด 4L รวมถึงเทคโนโลยีช่วยออกตัวบนทางลาดชัน Hill Start Assist (HSA) ที่ช่วยป้องกันไม่ให้รถไหลขณะออกตัว และเทคโนโลยีควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน Hill Descent Control (HDC) ที่จะคอยควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน ช่วยป้องกันไม่ให้รถไถล โดยใช้กำลังเครื่องยนต์ช่วยหน่วงความเร็วโดยไม่ต้องเหยียบเบรกช่วย
พิเศษขึ้นไปอีกสำหรับ นิสสัน นาวารา ใหม่ ที่เพิ่มระบบ Off-Road Mode ช่วยเพิ่มมุมมองขณะขับขี่ไปข้างหน้าในโหมด 4LO พร้อมทำงานร่วมกับเทคโนโลยีเตือนวัตถุเคลื่อนไหวรอบคัน Moving Object Detection (MOD) ซึ่งทำหน้าที่ตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนเมื่อตรวจพบบุคคลหรือวัตถุที่กล้องรอบคันจับการเคลื่อนไหวได้ โดยจะปรากฏบนหน้าจอกลาง ระบบช่วงล่างและระบบกันสะเทือนที่ปรับจูนใหม่ให้ดีขึ้น ช่วยเสริมสมรรถนะและการทรงตัวรถขณะขับเข้าโค้งได้ในทุกเส้นทางโดยเฉพาะเส้นทางที่คดเคี้ยวบนภูเขา และเสริมสมรรถนะกับรุ่น Pro 4X ด้วยล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว และยาง All Terrain ของ Yokohama GEOLANDAR ที่ให้ผู้ขับขี่มั่นใจในการเดินทางทุกสถานการณ์มากยิ่งขึ้น
สรุป นิสสัน นาวารา ใหม่ รุ่น Double Cab PRO-4X มีค่าตัวอยู่ที่ 1,149,000 บาท แลกกับปิกอัพ แต่งหล่อจากโรงงานไม่ต้องไปเพิ่มเติมอะไรอีก ก็ถือว่าเป็นตัวลุยที่น่าสนใจอยู่