การจับกุม “รถสวมทะเบียน” ของตำรวจทางหลวงโคราช หลังผู้เสียหายได้รับใบสั่งค่าปรับตำรวจ แต่ไม่เคยขับรถผ่านไปในจุดที่ถูกใบสั่ง ร้องขอให้ตำรวจทางหลวงช่วยติดตามจับกุมเจ้าของรถที่มาสวมทะเบียน
รถสวมทะเบียน ถือเป็นปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้าน ที่มีปัญหามาตลอด แต่ก่อนไปแจ้งตำรวจหลายๆครั้ง แต่ไม่เคยจับกุมได้ แต่ไม่ใช่ตำรวจทางหลวงยุคนี้ นำเทคโนโลยีมาใช้ในงานป้องกันปราบปรามใช้ระบบ AI มาช่วยการตรวจจับผู้ฝ่าฝืนกฎหมาย
นโยบายตรงของ พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบช.ก. พล.ต.ต.ชัช สุกแก้วณรงค์ รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.เอกราช ลิ้มสังกาศ ผบก.ทล. ที่ให้ตำรวจทางหลวงตามจับ “รถสวมทะเบียน” ให้หมดไปจากถนนหลวง
คดีนี้ พ.ต.อ.พฤทธิพงศ์ นุชนารถ รอง ผบก.ทล. พ.ต.อ.พิชญ์รุจ กุลวิมลประทีป ผกก.6 บก.ทล สืบสวนพบว่ามีรถสวมหมายเลขทะเบียน 4 กก 4644 กรุงเทพมหานคร ขับมาอยู่ในเขตพื้นที่ จ.นครราชสีมา
ให้ พ.ต.ท.วิษณุ คำโนนม่วง สารวัตรตำรวจทางหลวงนครราชสีมา ร.ต.อ.ยุทธ จตุรชัยภิญโญ ร.ต.ท.ชัยรัตน์ พันธุ์ขะวงศ์ ร.ต.ท.วีระศักดิ์ นาคพงษ์ รอง สว. (ป) ส.ทล.1 กก.6 บก.ทล. ด.ต.หญิง ปณิชา วรรณทอง ส.ต.ท.พนมกรณ์ สิงห์ยอย ผบ.หมู่ ส.ทล.1 กก.6 บก.ทล. ตรวจสอบตามเส้นทางผ่าน
พบรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า สีขาว ทะเบียน 4 กก 4644 กรุงเทพมหานคร ตามที่ผู้เสียหายแจ้งมาขับผ่านเส้นทางมุ่งหน้ากรุงเทพฯ ตำรวจเรียกขอตรวจสอบพบ น.ส.เอ นามสมมติ เป็นผู้ขับขี่ ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าลักษณะของแผ่นป้ายทะเบียนและแผ่นป้ายเสียภาษี ไม่ใช่ป้ายที่ออกมาโดยกรมการขนส่งทางบก
เมื่อนำเลขตัวถังรถตรวจสอบในระบบพบว่าเป็นเลขตัวถังรถอีกคัน มีผู้นำแผ่นป้ายทะเบียนปลอมมาติดไว้ แจ้งข้อหา “ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม”
เป็นรถยนต์คันที่ 5 ในรอบ 1 เดือนที่ถูกตำรวจทางหลวงจับกุมได้
โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี เป็นโทษสูง
แต่ยังมีขบวนการนำป้ายทะเบียนรถคนอื่นมาสวมทะเบียนเพื่อใช้ทำความผิด สร้างปัญหาเดือดร้อนให้ชาวบ้าน รถที่สวมแผ่นป้ายทะเบียนปลอมส่วนใหญ่มักจะถูกนำไปใช้ทำผิดอื่นๆ ทำให้เจ้าของรถจริงเดือดร้อน
นโยบาย ตำรวจทางหลวง มาถูกทางกวดขันตรวจสอบ “รถสวมทะเบียน” จริงจัง
ปัญหารถสวมทะเบียนที่ไม่เคยถูกจับกุม เพราะไม่เคยมีหน่วยไหนให้ความสนใจจับกุม ทั้งที่เครือข่ายแก๊ง “รถสวมทะเบียน” อยู่พื้นที่หลายจังหวัด มีเจ้าหน้าที่รัฐอยู่เบื้องหลังรับผลประโยชน์
ยังดี ตำรวจทางหลวงใส่ใจไล่จับ แก้ปัญหาให้ชาวบ้าน.
“เพลิงพยัคฆ์”
[email protected]