วันเสาร์ ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2564, 06.00 น.
รับหนาวส่งท้ายปี
เย็นลงอีก2-5องศา
กทม.พิษพุ่ง60จุด
พุ่งอันดับ11ของโลก
กรมอุตุฯเผย เตรียมหนาวส่งท้ายปี26-30 ธันวาคมนี้ อุณหภูมิลดอีก 2-5 องศาฯ เริ่มอีสานก่อน กรมควบคุมมลพิษชี้ฝุ่นพิษทั่วกทม.-ปริมณฑล 60 พื้นที่ พุ่งอันดับ 11 ของโลก ส่วนน้ำป่าทะลัก อ.กงหรา จ.พัทลุง จมบาดาล
เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ว่าบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้มีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิสูงขึ้น1-3องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้า แต่ยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนภาคกลางและภาคตะวันออก มีอากาศเย็นในตอนเช้า สำหรับยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-15องศาฯ ยอดภูมีอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-16 องศาฯ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระมัดระวังอันตรายจากการสัญจรบริเวณที่มีหมอก
ขณะที่มีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยเข้าปกคลุมภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นส่วนมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนน้อยในระยะนี้
อนึ่ง ในวันที่ 26-30 ธันวาคม 2564 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองในระยะแรก จากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 2-5 องศาฯ กับมีลมแรง โดยจะเริ่มในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลงในระยะต่อไป
ส่วนฝุ่นละอองขนาดเล็ก ฝุ่นละออง หมอกควันบริเวณประเทศไทยและ กทม.มีการสะสมเพิ่มขึ้น เนื่องจากลมที่พัดปกคลุมประเทศไทยมีกำลังอ่อนลง
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย ภาคเหนือ อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศาฯ อุณหภูมิต่ำสุด 14-17 องศาฯ อุณหภูมิสูงสุด 28-35 องศาฯ บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-15 องศาฯ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-15 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาฯ มีฝนร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 15-21 องศาฯ อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศาฯ บริเวณยอดภูอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-16 องศาฯ ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-15 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ภาคกลาง อากาศเย็น กับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาฯ อุณหภูมิต่ำสุด 19-21 องศาฯ อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาฯ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-15 กิโลเมตร/ชั่วโมงภาคตะวันออก มีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาฯ อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาฯ ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กิโลเมตร/ชั่วโมง ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ทางตอนบนของภาคมีอากาศเย็นในตอนเช้า ทางตอนล่างของภาคมีฝนร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาฯ อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาฯ ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตรภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาฯ อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาฯ ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กิโลเมตร/ชั่วโมง ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร
กทม.และปริมณฑล มีอากาศเย็น กับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาฯ อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาฯ อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาฯ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-15 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ด้านกรมควบคุมมลพิษ รายงานสถานการณ์คุณภาพอากาศใน กทม.และปริมณฑล พบว่าคุณภาพอากาศอยู่ในระดับปานกลางถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยมลพิษทางอากาศที่ตรวจพบเกินมาตรฐานได้แก่ ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ตรวจพบระหว่าง 28-65 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) เริ่มมีผลต่อสุขภาพ 57 พื้นที่ และ 3 พื้นที่มีผลต่อสุขภาพ ได้แก่ ริมถนนคลองทวีวัฒนา เขตทวีวัฒนา , ริมถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81 เขตหนองแขม และ ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ
ขณะที่เว็บไซต์ IQAirเก็บข้อมูลและรายงานคุณภาพอากาศและจัดอันดับเมืองที่มีมลพิษทั่วโลก พบว่า กทม.อยู่ในอันดับที่ 11 ของโลก
ที่ จ.พัทลุง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลางดึกวันที่ 23 ธันวาคมที่ผ่านมา ได้เกิดฝนตกหนักในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัด อ.กงหรา นานนับชั่วโมง ส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก ทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่หมู่ 3 , 5 และ 8 ต.กงหรา อ.กงหรา และท่วมพื้นที่การเกษตร มีสวนยางพารา และสวนผลไม้ได้รับความเสียหาย รวมทั้งถนนทางเข้าออกหมู่บ้าน จนชาวบ้านรับมือแทบไม่ทัน โดยเฉพาะที่หมู่ 5 น้ำป่าได้หลากท่วมเส้นทางและบ้านเรือนกว่า 60 หลังคาเรือน จนข้าวของเสียหายเนื่องจากขนขึ้นที่สูงไม่ทัน
ทั้งนี้ ชาวบ้านในพื้นที่ดังกล่าว ต่างระบุว่า รอบนี้น้ำหลากเข้าท่วมหนักกว่ารอบที่แล้วเมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เนื่องจากช่วงกลางวันฟ้าโปร่งไม่มีเค้าว่าจะมีฝนตกหนัก อย่างไรก็ดี ฝนตกหนักเฉพาะใน อ.กงหรา เพียงจุดเดียว ส่วนพื้นที่อื่นๆ ทั่วทั้ง จ.พัทลุง ท้องฟ้าโปร่ง และไม่ได้เกิดฝนตก