ศบค. เผย กลุ่มก้อนที่ปทุมธานี และตาก ยังคงติดตามต่อเนื่อง ย้ำผู้ที่อยู่ในตลาดต้องการสวมหน้ากากอนามัย พร้อมส่งทีมสอบสวนโรคตรวจสอบเพิ่มเติมในชุมชน ตลาดใกล้เคียง โดยผู้ติดเชื้อเดินทางไปอยุธยา เพชรบุรี กรุงเทพมหานคร นครนายก แพร่ ซึ่งมีความเสี่ยงจะพบผู้ติดเชื้อรายใหม่
วันนี้ (15 ก.พ.) พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วย ผู้ช่วยศบค. ได้เปิดเผยจากกรณีกลุ่มก้องผู้ติดเชื้อในจังหวัดปทุมธานีและจังหวัดตาก ว่า เคสแรกๆ ของปทุมธานีในรอบใหม่เชื่อมโยงกับกลุ่มตลาดกลางกุ้ง สมุทรสาคร ในช่วง ม.ค. โดยในวันที่ 4-13 ม.ค. มีการตรวจเชิงรุกไป 3,432 ราย พบผู้ติดเชื้อ 45 ราย วันที่ 30 ม.ค. พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม เป็นชาวเมียนมา มีอาการจมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส และยังเป็นผู้ค้าอยู่ในตลาด วันที่ 6 ก.พ. เข้ารับการรักษา, เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบในตลาด วันที่ 7 ก.พ. ผลตรวจพบเชื้อ วันที่ 9 -13 ก.พ. ตรวจผู้ที่อยู่ในตลาด 1,333 ราย พบผู้ป่วย 175 ราย เป็น 13.13% มีการสอบสวนโรคพบการติดเชื้อในพื้นที่ตลาดพรพัฒน์ โซนกลางของตลาด ซึ่งพบว่า สภาพอากาศไม่ค่อยถ่ายเทเท่าที่ควร ผู้ป่วยระบุว่า ช่วงที่อากาศร้อนจะไม่ได้สวมหน้ากากเป็นส่วนใหญ่
ทั้งนี้ ทีมสอบสวนโรคมีการตรวจตลาดใกล้เคียงและชุมชนโดยรอบ พบว่าจากปทุมธานี มีรายงานติดเชื้อไปอยุธยา เพชรบุรี กรุงเทพมหานคร นครนายก แพร่ โดยผู้ติดเชื้อเดินทางไปจังหวัดเหล่านี้และมีความเสี่ยงจะพบผู้ติดเชื้อรายใหม่
“ย้ำ ผู้ที่อยู่ในตลาด จำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา รวมถึงผู้ที่เข้าไปใช้บริการด้วย โดยเฉพาะการระบุตัวตนของผู้ที่เดินทางเข้าออกตลาด ในกรณีที่แม่ค้าเดินทางเข้าออกจากตลาดแห่งหนึ่ง ไปค้าขายที่ตลาดอีกแห่งหนึ่ง ให้เข้มข้นมากขึ้น” พญ.อภิสมัยกล่าว
พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ส่วนกลุ่มก้อนที่ จ.ตาก จากกรณีการพบการติดเชื้อใน พยาบาล 1 ท่าน เมื่อวันที่ 30 ม.ค. คาดว่า จะเป็นการติดเชื้อจากผู้ป่วยอีกรายหนึ่ง จึงได้ติดตามตรวจสอบเพิ่มเติมของผู้ป่วยรายนี้ พบว่า มีการติดเชื้อในครอบครัว 12 ราย พบเชื่อมโยงไปที่ตลาดศรีมอย, พาเจริญ ทำการค้นหาเพิ่ม 3,212 ราย พบผู้ป่วย 37 ราย ติดตามต่อไปในชุมชนอันซอร ตรวจคัดกรอง 499ราย พบผู้ป่วย 21ราย สถานที่เลี้ยงไก่ คัดกรอง 26 ราย พบผู้ป่วย 2 คน และตรวจคัดกรองพื้นที่อื่นๆ เพิ่ม ในคลังรถจักรยาน 432 ราย พบป่วย 39 ราย จากคลังจักรยานยนต์ พบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 1 ราย ซึ่งทั้งกลุ่มก้อนที่ปทุมธานี และตาก ยังคงติดตามต่อเนื่อง ฝากย้ำการสวมหน้ากาก การสัมผัสใกล้ชิดแม้ว่าจะเป็นในกลุ่มบุคคลใกล้ชิดก็ตาม

