วันจันทร์ ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564, 13.13 น.
วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2564 นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินทางมายังศาลาว่าการกทม.(เสาชิงช้า) เพื่อยื่นหนังสือร้องเรียนถึงผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพื่อเร่งสั่งการให้พนักงานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษเอาผิด “กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม” และ “กลุ่มราษฎร” นำโดยนายภานุพงษ์ จาดนอก นายอรรถพล บัวพัฒน์ นายปิยรัฐ จงเทพ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล ฯลฯ ได้จัดชุมนุมสาธารณะขึ้น เมื่อวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนินกลาง โดยได้รื้อถอนทำลายทรัพย์สินของทางกรุงเทพมหานคร คือ ไม้ดอกไม้ประดับ ได้รับความเสียหาย โดยมีนายธรรมรัตน์ มุกมีค่า ผู้ช่วยเลขานุการสำนักงานเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นผู้รับเรื่อง
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ตามที่กลุ่มการเมือง ในนามกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมและกลุ่มราษฎร นำโดยนายภานุพงษ์ จาดนอก นายอรรถพล บัวพัฒน์ นายปิยรัฐ จงเทพ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล ฯลฯ ได้จัดชุมนุมสาธารณะขึ้นอย่างผิดกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา ณ บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนินกลาง โดยได้กระทำการฝ่าฝืนกฎหมายหลายประการ และหลายฉบับ ความดังทราบเป็นการทั่วไปแล้วนั้น
การบุกรุกเข้าใช้อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยดังกล่าว ยังได้มีการรื้อถอนทำลายทรัพย์สินของทางกทม. คือ ไม้ดอกไม้ประดับ ซึ่ง กทม.ได้ตกแต่งประดับไว้ในบริเวณพื้นที่ดังกล่าวให้สวยงาม ซึ่งถือว่าเป็นการทำลายทรัพย์สินของทางราชการ เนื่องจากกทม.ได้ใช้เงินงบประมาณแผ่นดินที่เป็นเงินภาษีของประชาชนไปในการปลูก บำรุงรักษา และประดับ ซึ่งรวมมูลค่าแล้วน่าจะหลายแสนบาท ซึ่งมีความผิดหลายมาตรา อาทิ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 360 ที่บัญญัติความว่าผู้ใดทําให้เสียหาย ทําลาย ทําให้เสื่อมค่าหรือทําให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งทรัพย์ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
ดังนั้นสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงขอให้ผู้ว่าฯกทม.เร่งสั่งการให้พนักงานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษเอาผิดบุคคลหรือกลุ่มบุคคลทั้งทางแพ่งและทางอาญา ที่เป็นผู้ที่สั่งการ หรือร่วมกระทำการดังกล่าว ดังนี้ 1.สั่งการให้พนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการอย่างใดๆ เพื่อตรวจสอบความเสียหายของไม้ดอกและไม้ประดับรวมทั้งทรัพย์สินอื่นใดของกทม. ในบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยที่เสียหาย จากเหตุดังกล่าวว่ามีความเสียหายประเมินแล้วเป็นมูลค่าออกมาเท่าใด และอย่างไร เพื่อนำไปกำหนดเป็นค่าเสียหายในทางแพ่งต่อไป และ 2.สั่งการหรือมอบหมายให้นิติกรหรือฝ่ายกฎหมายหรือสำนักสิ่งแวดล้อม เข้าดำเนินการแจ้งความหรือร้องทุกข์กล่าวโทษบุคคล และหรือกลุ่มบุคคล ในนามกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม และ กลุ่มราษฎรทั้งทางแพ่ง และทางอาญา เพื่อดำเนินคดีต่อไปให้ถึงที่สุด โดยไม่มีการยอมความด้วยกรณีใดๆ
อย่างไรก็ตามจากนี้จะรวบรวมพยานและหลักฐาน ก่อนเข้าแจ้งความกับสน.ปทุมวันและสน.สำราญราษฎร์ เพื่อดำเนินคดีต่อไป
ด้านนายวิรัตน์ มนัสสนิทวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม แจ้งว่า วันนี้(15ก.พ.) สำนักงานสวนสาธารณะ กรุงเทพมหานคร กำลังตรวจสอบรวบรวมข้อมูลความเสียหายเข้าแจ้งความที่สน.สำราญราษฏร์ โดยก่อนหน้านี้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมากรุงเทพมหานคร ได้เข้าปรับปรุงพื้นที่รอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยและตกแต่งไม้ประดับเสร็จสวยงาม ใช้ไม้ประดับไป ได้แก่ สร้อยไก่ , พยับหมอก , ผักโขมแดง , เทียนทอง , ลิ้นกระบือด่าง , กระดุมทองเลื้อย , แดงชาลี และ ชะแนบทอง รวมจำนวน 78,070 ต้น
