วันศุกร์ ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565, 20.11 น.
สนข.กางแผนศึกษาเดินทางทางน้ำ
นายปัญญา ชูพานิช ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยถึงแผนการจัดการเดินทางทางน้ำ โดยจะเริ่มดำเนินการที่ท่าเรือพระนั่งเกล้า ซึ่งจะมีการเชื่อต่อระหว่างทางราง ทางถนน และทางเรือ ทั้งนี้ หากโครงการแล้วสมบูรณ์จะเป็นการเพิ่มปริมาณการเดินทางของผู้โดยสารได้เพิ่มขึ้น สำหรับระยะโครงการดำเนิน แบ่งเป็น ระยะสั้น 5เส้นทาง ระยะยาว 3เส้นทาง โดยสนข.อยู่ระหว่างศึกษาแผนอำนวยความสะดวกว่าจะต้องการรายละเอียดอย่างไรบ้าง อย่างไรก็ตาม สนข.จะเป็นหน่วยงานศึกษารายละเอียด ก่อนจะส่งให้กระทรวงคมนาคมพิจารณา หากอนุมัติเรียบร้อย ก็จะนำเสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการก่อสร้างต่อไป
นายปัญญา กล่าวด้วยว่า จากนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่ให้หน่วยงานต่างๆ เร่งเดินหน้าพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคม เพื่อรองรับและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน โดยเป็นไปตาม แผนยุทธศาสตร์ 20 ปี กระทรวงคมนาคม (พ.ศ. 2561 – 2580) ซึ่งถือเป็นหัวใจหลักในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมของประเทศไทย โดยที่ผ่านมา สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร หรือ สนข. ได้ร่วมวางแผนยุทธศาสตร์ฯ และติดตามทุกโครงการทั้งก่อน ระหว่าง และหลังการดำเนินการ เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาคมนาคมขนส่ง สร้างรากฐานการพัฒนาประเทศ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต เสริมขีดความสามารถทางเศรษฐกิจ กระจายความเจริญสู่ภูมิภาคสอดรับทุกยุทธศาสตร์สำคัญอย่างเป็นรูปธรรม โดยในปี 2565 สนข. มีความคืบหน้าโครงการต่างๆ ให้เห็นเป็นรูปธรรมหลากหลายโครงการ ประกอบด้วย
การพัฒนาการเดินทางและการเชื่อมต่อการเดินทางทางน้ำ ที่มีการศึกษาเส้นทางการเดินทางทางน้ำซึ่งปัจจุบันมีจำนวน 4 เส้นทาง ระยะทาง 65.4 กิโลเมตร มีท่าเรือทั้งสิ้น 103 แห่ง มีจุดเชื่อมต่อการเดินทางในรูปแบบอื่นจำนวน 8 จุด โดยมีแนวทางการพัฒนาการเดินทางทางน้ำ ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล (W-Map) ให้เป็นทางเลือกการเดินทางที่มีประสิทธิภาพ โดยมีป้าหมายพัฒนาเส้นทางทางน้ำให้มีระยะทางเพิ่มขึ้น 131.2 กิโลเมตร พัฒนาท่าเรือเพิ่มขึ้นอีก 97 แห่ง มีจุดเชื่อมต่อการเดินทางในรูปแบบอื่นเพิ่มเป็น 34 จุด ในปี 2570 และเพิ่มเป็น 40 จุด ในปี 2575 โดยคาดว่าเมื่อพัฒนาแล้วเสร็จจะมีประชาชนหันมาใช้บริการเพิ่มขึ้น 36.57% /การศึกษาจัดทำโมเดลการพัฒนาระบบเทคโนโลยี เพื่อการบริหารจัดการจราจร โดยปัจจุบัน สนข. ได้ทำการเชื่อมต่อข้อมูลกล้อง CCTV และข้อมูล GPS กับกรุงเทพมหานครและหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม เพื่อเป็นข้อมูลในการติดตามสภาพจรจร วางแผนจราจร และแก้ปัญหาจราจรติดขัด /การนำบัตร EMV มาใช้กับระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ ปัจจุบันบัตร EMV มีการนำมาใช้กับรถไฟฟ้าสายสีม่วง สายสีน้ำเงิน และสายสีแดงแล้ว /การพัฒนาสถานีเปลี่ยนถ่ายและกระจายสินค้าของประเทศเชื่อมการขนส่งสินค้าหลายรูปแบบและพัฒนาจุดพักรถบรรทุกบนโครงข่ายถนนสายหลัก ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และพื้นที่ต่อเนื่อง กรุงเทพมหานคร ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการศึกษา สำรวจข้อมูลและพฤติกรรมการขนส่ง จากนั้นจึงนำมาพัฒนา Model การนำมาตรการห้ามรถบรรทุกเข้าพื้นที่เมือง และการใช้ประโยชน์ที่ดิน จัดทําแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคมนาคม เพื่อรองรับการบังคับใช้มาตรการจํากัดเวลารถบรรทุกเข้าพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
โครงการศึกษาการแปลงนโยบายสู่การปฏิบัติแบบบูรณาการด้านคมนาคมและโลจิสติกส์ในระดับภูมิภาคและประเทศ ปัจจุบัน อยู่ระหว่างประมวลสรุปผลการศึกษาเพื่อจัดทําร่างแผนปฏิบัติการ
ด้านคมนาคมและระบบโลจิสติกส์ ระยะที่ 1 (พ.ศ.2566 –2570) และแผนปฏิบัติการด้านคมนาคมและระบบโลจิสติกส์ระยะที่ 2 (พ.ศ. 2571 – 2580) เพื่อใช้ในการ Workshop กับภาคเอกชน 5 พื้นที่กลุ่มจังหวัด ก่อนพัฒนาเป็น Final Report และแผนปฏิบัติการฯ ขั้นต่อไป
และโครงการศึกษาความเหมาะสม ออกแบบเบืองต้น ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและวิเคราะห์รูปแบบโมเดลการพัฒนาการลงทุน (Business Development Model) โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ เพื่อเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน (Landbridge) ซึ่งมีการศึกษามาตั้งแต่ปี 2564 ปัจจุบันอยู่ระหว่างจัดประชุมกลุ่มย่อยครั้งที่ 1 เพื่อนำผลการประชุมมาเป็นข้อมูลในการจัดทำรายงานความก้าวหน้า โดยคาดว่าจะสามารถนำเสนอผลการศึกษาต่อ ครม. ได้ในปี 2566