พนักงานขับรถรทัวร์โดยสาร โพสต์ภาพขณะก้มกราบลาแม่ย่านาง หน้ารถโดยสารปรับอากาศสายกรุงเทพฯ-ภูเรือ เนื่องจากสถานการณ์โควิดทางบริษัทจึงประกาศให้รถสายนี้หยุดวิ่ง พร้อมเผย ลำบากมากเพราะต้องดูภรรยาที่ป่วยเป็นมะเร็งรยะสุดท้าย และลูกๆอีกหลายชีวิต
เมื่อวันที่ 26 ก.ค. มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก “พิษณุ ธนะสังข์” ซึ่งเป็นพนักงานขับรถรทัวร์โดยสารได้โพสต์ภาพขณะที่ตนได้ก้มกราบลาแม่ย่านาง ที่หน้ารถโดยสารปรับอากาศสายกรุงเทพฯ-ภูเรือ พร้อมระบุข้อความว่า “กราบลา ก่อนนะแม่ ชีวิตลูกแย่พาแม่ไปต่อไม่ไหวจริงๆ”
รายงานข่าวเพิ่มเติมทราบว่า นายพิษณุ ธนะสังข์ อายุ 47 ปี เดิมทีมีอาชีพขับรถโดยสารมานานกว่า 20 ปี โดยตนเอง ขับรถโดยสารปรับอากาศประทาง สายกรุงเทพ-ภูเรือ ของบริษัทแห่งหนึ่ง แต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทางบริษัทมีความจำเป็นต้องลดจำนวนเที่ยวในการวิ่งรับ-ส่ง สุดท้ายทางบริษัทก็ได้มีประกาศให้รถที่วิ่งสายนี้หยุดวิ่ง ตั้งแต่วันที่ 17 ก.ค. 64 ที่ผ่านมา เนื่องจากไม่คุ้มทุนในการวิ่งรถ
นายพิษณุ เผยอีกว่า ด้วยภาระที่หนักอึ้ง เพราะที่บ้านมีผู้อยู่อาศัยรวมกัน 6 คน โดยก่อนหน้านี้ ทั้งตนเอง และภรรยา เป็นคนหารายได้มาเลี้ยงครอบครัว กระทั่งภรรยาประสบอุบัติขาหัก ตั้งแต่เดือน เม.ย. 64 ไม่สามารถออกไปทำงานได้ ต้องนอนเป็นผู้ป่วยติดเตียง มิหนำซ้ำยังตรวจเจอเชื้อมะเร็งระยะสุดท้าย กระจายอยู่ทั่วร่างกาย
อย่างไรก็ตาม วันนี้ยังโชคดี มีงานทำ เป็นคนขับรถส่งน้ำแข็ง ของบริษัทแห่งหนึ่ง โดยได้เป็นค่าจ้าง วันละ 320 บาท ซึ่งก็แทบจะไม่พอเลี้ยงครอบครัว โดยที่ผ่านมา ภรรยาเคยได้เงินช่วยเหลือประกันสังคม จำนวน 1 หมื่นบาทเศษ ซึ่งทางประกันสังคมแจ้งว่า จะจ่ายให้โดยจะแบ่งเป็นจำนวน 3 งวด แต่จนถึงขณะนี้ก็ไม่มีการติดต่อมาอีกเลย
นายพิษณุ บอกว่า จากการที่โพสเฟซบุ๊กคำว่า กราบลา ก่อนนะแม่ ซึ่งแม่ในที่นี้หมายถึง แม่ย่านางรถ ซึ่งรถโดยสารประจำทางนั้น ตนได้ใช้ชีวิตบนรถ ไม่ว่าจะเป็น กิน นอน โดยขับรถคันนี้มา 6-7 ปี มีความรู้สึกผูกพัน และไม่คิดมาก่อนเลยว่าสถานการณ์โควิด-19 จะทำให้ต้องหยุดวิ่งรถ ซึ่งอาชีพรถขับรถโดยสาร ได้ขับมาร่วม 10 ปี ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าต้องมาตกงานเพราะโควิด-19