อดีตผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ปีนต้นไม้ตะโกนขอความช่วยเหลือจากนายกรัฐมนตรี นานเกือบครึ่งชั่วโมง กว่าตำรวจและเจ้าหน้าที่จะเกลี่ยกล่อมให้ลงมาได้
ชายปีนป้ายบอกทาง บนสะพานพระราม 3
ที่ทำเนียบรัฐบาลแต่ละวันจะมีคนมาร้องเรียนขอให้นายกรัฐมนตรีช่วยเหลือเรื่องต่างๆ ทุกวัน วันละหลายเรื่อง วันนี้ก็เช่นเดียวกัน แต่ที่แตกต่างไปจากเดิม คือ วันนี้มี อดีตผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ปีนต้นไม้ตะโกนขอความช่วยเหลือจากนายกรัฐมนตรี นานเกือบครึ่งชั่วโมง กว่าตำรวจและเจ้าหน้าที่จะเกลี่ยกล่อมให้ลงมาได้
นี่เป็นภาพเหตุการณ์ช่วงที่ นายวิละ อุดม อดีตผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ตะโกนร้องเรียนขอความช่วยเหลือจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี อยู่บนต้นไม้ ข้างทำเนียบรัฐบาล จากการสอบถามผู้ที่เห็นเหตุการณ์บอกว่าเห็น นายวิละ อยู่บนต้นไม้และตะโกนแบบนี้ นานหลายนาที ก่อนที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่จะมาเกลี้ยกล่อมให้ลงมาคุยกันข้างล่าง โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 10 นาที ก่อนที่นายวิละ จะยอมลงมา รวมเวลาทั้งหมดเกือบครึ่งชั่วโมง
นายวิละ บอกว่าสาเหตุที่ปีนขึ้นไปตะโกนร้องเรียนบนต้นไม้ เพราะอยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร ช่วยเหลือให้เขา ได้รับการคุ้มครองพยานคดีตลาดนัดซันเดย์ ที่การรถไฟแห่งประเทศไทย เรียกเก็บเงินมัดจำ ผู้ค้าเพื่อทำสัญญาพื้นที่ตลาดซันเดย์จตุจักร แต่สุดท้ายกลับไม่มีการทำสัญญา และไม่มีการคืนเงินมัดจำ จนต้องมีการฟ้องร้อง โดยคดีดังกล่าว เป็นคดีเก่าตั้งแต่ปี 2548 พร้อมระบุว่า ตอนนี้เขากำลังตกงาน ไม่มีเงินมาเลี้ยงดูแม่ ทุกวันนี้ต้องอาศัยการเดินทางมาขอคูปองอาหารและน้ำจากสำนักปลัดนายกฯ บางครั้งได้คูปอง บางครั้งก็ไม่ได้ จึงอยากให้ นายกฯ ให้การช่วยเหลือ
ด้านเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในเหตุการณ์ บอกว่านายวิละ เป็นคนสติดี ไม่ใช่คนวิกลจริต เคยมีฐานะดี เป็นพ่อค้าที่ตลาดนัดซันเดย์ แต่หลังประสบปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ ตั้งแต่ช่วงก่อนโควิด ทำให้มีปัญหาเรื่องเงิน และเริ่มร้องเรียนหลายครั้ง แต่ครั้งนี้ เป็นครั้งแรกที่ปีต้นไม้ คาดว่าน่าจะไปขอคูปองแล้วไม่ได้ โดยหลังจากนายวิละ ลงมาแล้วเจ้าหน้าที่ได้พาไปร้องเรียนที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาลอีกครั้ง
จากการตรวจสอบประวัติของนายวิละ พบว่า นอกจากนายวิละ จะเคยลงสมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในนามอิสระ เมื่อปี 2556 และเคยเรียกร้องให้สื่อนำเสนอข่าวหาเสียงให้ผู้ลงสมัครในนามอิสระ ให้เท่าเทียมกับพรรคใหญ่ เพราะเสียค่าสมัครเท่ากันทุกคน
“จักรทิพย์” อุ่นใจชาวบ้านคลองสานขานรับ