พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เผยถึงเกณฑ์ดำเนินการกับผู้ที่ฝ่าฝืนประกาศกรุงเทพมหานคร ไม่สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทุกครั้งตลอดเวลาที่ออกนอกเคหสถาน หรือสถานที่พำนัก จะมีความผิดตามมาตรา 51 แห่ง พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 และหากสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าปิดแค่บริเวณปาก ไม่ปิดจมูก ก็จะถือว่ามีความผิดด้วย ประชาชนที่พบเห็นผู้ฝ่าฝืน สามารถถ่ายรูปไปแจ้งความได้ โดยพนักงานสอบสวน จะมีอำนาจเปรียบเทียบปรับ ตามระเบียบคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ว่าด้วยหลักเกณฑ์การเปรียบเทียบ พ.ศ.2563 โดยปรับความผิดครั้งแรกในอัตรา 6,000 บาท ครั้งที่ 2 จำนวน 12,000 บาท ความผิดครั้งที่ 3 หากยังทำอีกครั้งก็จะเปรียบเทียบปรับ 20,000 บาท
แต่ทั้งนี้ หากมีเหตุผลพิเศษอันควรที่จะลดค่าปรับ สามารถเปรียบเทียบปรับลดลงได้แต่ไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 คือไม่น้อยกว่า 2,000 บาท แต่หากผู้ต้องหาไม่ยินยอมก็จะต้องส่งฟ้องศาล ซึ่งศาลจะใช้ดุลยพินิจในการเปรียบเทียบปรับต่อไป
สำหรับในกรณีของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีนั้น กทม. ถือเป็นผู้เสียหาย ซึ่งนายกรัฐมนตรี ยินยอมให้เปรียบเทียบปรับได้เต็มอัตรา พนักงานสอบสวน สน.ดุสิต จึงเปรียบเทียบปรับ 6,000 บาท
ส่วนความคืบหน้ากรณีการช่วยเหลือผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ กทม. ซึ่งเดิมตกค้างอยู่ราว 500 ราย ขณะนี้ได้นำรถของสำนักงานเขต 50 เขต มาร่วมกับรถของศูนย์เอราวัณ ในการช่วยเหลือและกระจายผู้ป่วยทั้งรายเก่า และรายใหม่ที่มีเพิ่มเติมไปยังโรงพยาบาลและโรงพยาบาลสนามเกือบครบหมดแล้ว คงเหลือตกค้างอยู่อีกราว 20-30 ราย ซึ่งกทม. จะเร่งประสานให้การช่วยเหลือต่อไป ส่วนศพของผู้ป่วยโควิด-19 ที่เสียชีวิต เบื้องต้นอยู่ในความดูแลของมูลนิธิกู้ภัย แต่ประชาชนสามารถโทรศัพท์มาแจ้ง สายด่วน 1669 เพื่อให้ช่วยประสานงานได้
พล.ต.อ.อัศวิน ยังบอกอีกว่า ขณะนี้ กทม. อยู่ระหว่างการตรวจสอบสภาพศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติฯ บางมด เพื่อจัดตั้งเป็นโรงพยาบาลสนามของ กทม. เพิ่มเติม คาดรองรับผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มสีเขียวได้ราว 400 เตียง รวมถึงยังอยู่ระหว่างหาแนวทางการจัดทำ ICU โรงพยาบาลสนาม รองรับผู้ป่วยอาการรุนแรงด้วย หากมีความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป.