กทม.ตั้งชุดตรวจบูรณาการตรวจผับบาร์ ร้านอาหารทุกวัน ชี้ลักลอบเปิดหลังเวลาโทษหนัก สั่งคุมเข้มจุดบริการ ปชช.เดินทางช่วงสงกรานต์ กำชับผู้ประกอบการยึดมาตรการป้องกันแพร่เชื้อ ส่วนที่อุตรดิตถ์ จนท.บุกตรวจผับดัง สภาพแออัดไม่กลัวโควิด ทิ้งยาไอซ์ ยาอี เกลื่อนร้าน เจอนักเที่ยวฉี่ม่วง เตรียมเสนอผู้ว่าฯ สั่งปิด
วันที่ 8 เม.ย. นายชาตรี วัฒนเขจร รองปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า กรุงเทพมหานครกำชับให้คณะทำงานด้านการประสานงานการดูแลความสงบเรียบร้อยของ ศบค.กทม. ซึ่งมีสำนักเทศกิจเป็นเลขานุการ ดำเนินมาตรการเชิงรุก เพื่อควบคุมสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่มีความเชื่อมโยงกับสถานบันเทิง โดยบูรณาการความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจัดชุดตรวจให้คำแนะนำสถานบริการ สถานประกอบการคล้ายสถานบริการ ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร ตำรวจ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสถานบันเทิง สถานบริการ สถานประกอบการคล้ายสถานบริการ เป็นประจำทุกวัน เพื่อกำชับให้เจ้าของ ผู้ประกอบการปฏิบัติตามข้อกำหนดของมาตรการควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ ชุดตรวจบูรณาการจะเพิ่มความเข้มงวดตรวจสอบสถานประกอบการ ทั้งร้านอาหาร สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ มิให้ฝ่าฝืนคำสั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราวในพื้นที่เขตวัฒนา เขตคลองเตย และเขตบางแค (ฉบับที่ 22) เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2564 อย่างจริงจังและต่อเนื่องต่อไป เพิ่มความเข้มข้นและความถี่ในการตรวจสอบการเปิดให้บริการร้านอาหารตามเวลาที่กำหนด โดยในช่วงเทศกาลสงกรานต์จะเพิ่มความเข้มข้นในการตรวจสอบ โดยเฉพาะจุดบริการประชาชนที่เดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ให้ปฏิบัติมาตรการป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 ที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดไว้อย่างเคร่งครัด
“กทม.ยังได้แนะนำมาตรการป้องกันโรคให้ผู้ประกอบการ และผู้ใช้บริการถือปฏิบัติ เน้นย้ำมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 D-M-H-T-T ได้แก่ D – Distancing เว้นระยะระหว่างบุคคล หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้อื่น, M – Mask wearing สวมหน้ากากผ้า หรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลา, H – Hand washing ล้างมือบ่อยๆ จัดให้มีจุดบริการเจลล้างมืออย่างทั่วถึงเพียงพอ, T – Testing ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายก่อนเข้าใช้บริการ เพื่อคัดกรองผู้ใช้บริการที่อาจไม่สบายหรือได้รับเชื้อโควิด-19 และ T – Thaichana ติดตั้งและใช้แอปพลิเคชัน “ไทยชนะ” ก่อนเข้า-ออกสถานที่ทุกครั้ง ทั้งยังมีมาตรการดำเนินการทางกฎหมายอย่างเคร่งครัด กรณีพบการฝ่าฝืนเปิดร้านเกินเวลาที่กำหนด หรือพบว่ามีผู้ใช้บริการอยู่ในร้านหลังเวลา 23.00 น. หรือพบสถานบริการลักลอบเปิดให้บริการหลังเวลาที่ได้รับอนุญาต” นายชาตรีกล่าว
ส่วนการตรวจสอบสถานบันเทิงในพื้นที่ต่างจังหวัด มีรายงานว่าชุดปฏิบัติการพิเศษ กรมการปกครอง ร่วมกับชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดอุตรดิตถ์ นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (อส.) และเจ้าหน้าที่ ปปส.ภาค 6 เข้าตรวจสถานบันเทิงชื่อดังในจังหวัดอุตรดิตถ์ เมื่อคืนวันที่ 7 เม.ย. เนื่องจากทางจังหวัดอุตรดิตถ์มีข้อมูลว่านักเที่ยวในผับดังกล่าวเสพยาภายในร้าน และไม่มีการเว้นระยะห่างทางสังคมตามมาตรการป้องกันโรคระบาด นายผล ดำธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ จึงสั่งฝ่ายปกครองจังหวัดอุตรดิตถ์ ประสานกับชุดปฏิบัติการพิเศษ กรมการปกครอง เข้าตรวจสอบร้าน โดยไม่แจ้งล่วงหน้า
จากการเข้าตรวจ พบนักเที่ยวแออัดในร้านประมาณ 300 คน ดื่มกินและเต้น เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ นักเที่ยวพากันโยนยาเสพติดทิ้งลงบนพื้นภายในร้าน พบซองยาเสพติดประเภทไอซ์ ยาอี และเคตามีน พร้อมอุปกรณ์การเสพตกอยู่ ก่อนสั่งหยุดบริการ แยกนักเที่ยวชายหญิงตรวจปัสสาวะ มีผลตรวจเป็นบวก ปัสสาวะมีสีม่วง จำนวน 5 คน นำเข้าสู่กระบวนการต่อไป พร้อมกันนี้ได้แจ้งข้อหากับผู้รับใบอนุญาตตั้งสถานบริการดังกล่าวคือ 1.ยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้มีการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในสถานบริการ 2.ฝ่าฝืนมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด และ 3.โฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยเจ้าหน้าที่จะเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ออกคำสั่งปิดร้านดังกล่าวด้วย.