เช็คมาตรการ “ที่เที่ยว” จังหวัดปลายทาง ก่อนเดินทางข้ามจังหวัด

สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ที่กินเวลายาวนาน ทำให้คนไทยไม่ได้เดินทางท่องเที่ยวในประเทศมาเกือบ 2 ปี หลังจากที่รัฐบาลประกาศ “คลายล็อก” ขาเที่ยวหลายคนจึงได้เวลาวางแผน “เที่ยวไทย” อีกครั้งในช่วงปลายปี 2564 โดยมี “ที่เที่ยว” หลายแห่งเริ่มออกมาตรควบคุมโควิด-19 เพื่อรอต้อนรับนักท่องเที่ยวกันแล้ว

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้รายงานถึงผลสำเร็จของโครงการ “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” ที่เปิดมา 3 เดือน พบว่าสามารถสร้างมูลค่าหมุนเวียนทางเศรษฐกิจกว่า 2,330 ล้านบาทแล้ว (ณ วันที่ 27 กันยายน 2564)

รัฐบาลจึงได้เดินหน้าเปิดอีก 5 พื้นที่ท่องเที่ยว เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ได้แก่ 

• กรุงเทพฯ 
• เชียงใหม่ (อ.เมือง อ.แม่ริม อ.แม่แตง อ.ดอยเต่า) 
• ประจวบคีรีขันธ์ (อ.หัวหิน) 
• เพชรบุรี (อ.ชะอำ) 
• ชลบุรี (เมืองพัทยา อ.บางละมุง อ.สัตหีบ)

แต่ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไข คือ ในระหว่างทางก่อนถึงวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ จังหวัดที่กำหนดไว้จะต้องไม่พบการติดเชื้อโควิดใหม่ ที่เป็นคลัสเตอร์ขนาดใหญ่และมีความรุนแรงจนสร้างความกังวลสูงอีกรอบ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

• ปลุกกระแส ‘เราเที่ยวด้วยกันเฟส3’ เร่งฟื้นตลาด ปูทางต้อนรับต่างชาติ
• เตรียมเปิด “กรุงเทพฯ” พ่วง 4 จว. รับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เริ่ม 1 พ.ย.นี้
• หลังโควิด “ที่เที่ยว” แบบไหนถูกใจคนไทย? ม.มหิดล เผยอินไซต์ Neo Tourism
• ชงเลื่อนเปิดเมือง 5 จังหวัดรวม “กรุงเทพฯ” ดีเดย์พร้อมกัน 1 พ.ย.นี้!

ด้านนักท่องเที่ยวชาวไทย มีรายงานข่าวว่าประชาชนที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว เริ่มวางแผนออกเดินทางท่องเที่ยวปลายปี 2564 มากขึ้น โดยมีผลสำรวจเจาะอินไซต์ (Insight) นักท่องเที่ยวไทย ของวิทยาลัยการจัดการ ม.มหิดล ที่พบว่าหลังการคลายล็อกดาวน์ คนไทยอยากจะไปเที่ยวใน 4 จังหวัดนี้มากที่สุด ได้แก่ เชียงใหม่ ภูเก็ต ประจวบฯ และชลบุรี

นอกจากนี้ “ที่เที่ยวใกล้กรุง” ก็ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวไทยในช่วงปลายปีนี้เช่นกัน โดยนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. ระบุว่า ประชาชนเริ่มออกเดินทางท่องเที่ยวหลังคลายล็อกดาวน์มากขึ้น โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ เช่น เขาใหญ่ หัวหิน พัทยา คาดการณ์ว่าในไตรมาส 4 นี้น่าจะเห็นกระแสการเดินทางคึกคักขึ้น

ส่วนใครที่กำลังวางแผนจะไปเที่ยวในจังหวัดต่างๆ ข้างต้น ต้องรู้ก่อนว่าในจังหวัดปลายทางมีมาตรการควบคุมโควิดอย่างไรบ้าง? เรารวบรวมมาให้เช็คลิสต์ ดังนี้

1. เที่ยวเชียงใหม่

– ต้องมีผลตรวจ ATK หรือ RT-PCR ไม่ติดเชื้อ ไม่เกิน 72 ชม.

– หากเคยป่วยโควิด ต้องรักษาหายไม่เกิน 3 เดือน

– ผู้ที่ได้วัคซีนครบ 2 เข็ม ไม่ต้องกักตัว 14 วัน

– ขณะเที่ยวสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ปฏิบัติตามมาตรการ D-M-H-T-T-A

2. เที่ยวภูเก็ต

– เป็นผู้ได้รับวัคซีนครบโดส อย่างน้อย 14 วัน (ซิโนแวค/ซิโนฟาร์ม/สปุตนิกวี 2 เข็ม, ซิโนแวค+AZ รวม 2 เข็ม, AZ/ไฟเซอร์/โมเดอร์นา/J&J 1 เข็ม)

– เป็นผู้ที่หายป่วยจากโควิด-19 แล้วไม่เกิน 6 เดือน

– มีผลตรวจ RT-PCR หรือ ATK เป็นลบ ไม่เกิน 7 วัน

– ดาวน์โหลดแอพฯ “หมอชนะ” และเปิดระบบติดตามไว้ตลอดเวลา

– ลงทะเบียนผ่าน www.gophuget.com แจ้งการเดินทางเข้าภูเก็ต

– ปฏิบัติตามมาตรการ D-M-H-T-T-A

**อัพเดท! คนภูเก็ตและคนไทยทั่วประเทศ หากฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว สามารถเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ตได้ ไม่ต้องตรวจ Swab มีผลตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค. 64 เป็นต้นไป 

3. เที่ยวหัวหิน (ประจวบฯ)

– เป็นผู้ที่ฉีดวัคซีนโควิดครบ 2 เข็ม หรือมีผลตรวจ ATK เป็นผลลบ

– หากเคยป่วยติดเชื้อโควิด ต้องรักษาหายแล้วไม่เกิน 90 วัน

– ดาวน์โหลดแอพฯ “หมอชนะ” ติดตามตัว 

– ขณะท่องเที่ยวต้องต้องเช็คอินด้วยแอพฯ ไทยชนะ 

– รักษาระยะห่าง การสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา 

4. เที่ยวชลบุรี

– ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม หรือมีผลการตรวจโควิด ATK เป็นลบ ไม่เกิน 72 ชั่วโมง

– ลงทะเบียนการเดินทางข้ามพื้นที่ ผ่านเว็บ https://covid-19.in.th 

– ลงทะเบียนผ่านแอพฯ ไทยชนะ ที่ด่านตรวจ

– เปิดพื้นที่ชายทะเล ชายหาด ในชลบุรีให้เที่ยวได้ไม่เกินเวลา 20.00 น. 

– มาตรการเกาะล้าน จ.ชลบุรี ชาวไทยให้แสดงบัตรประชาชนเพื่อเดินทางเข้า-ออกพื้นที่ โดยผ่านจุดคัดกรองทั้งฝั่งพัทยาและเกาะล้าน

– ปฏิบัติตามมาตรการ D-M-H-T-T-A

5. เที่ยวเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา

– อนุญาตให้เที่ยว + เข้าพัก ได้เฉพาะผู้ที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม หรือมีผลตรวจ ATK เป็นลบ

– มีมาตรการการท่องเที่ยวที่รัดกุมมากยิ่งขึ้น ด้วยการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวอย่างเข้มงวด 

– ต้องปฏิบัติตามกฎ 4 ม. คือ ไม่ทิ้งขยะ ไม่ส่งเสียงดัง ไม่ขับรถเร็ว ไม่ให้อาหารสัตว์