สยามรัฐออนไลน์
3 มีนาคม 2564 19:44 น.
อาชญากรรม
พลทหารประจักษ์
วันที่ 3 มี.ค. 64 ที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร นางปพิชญา เอียดนุ่น แม่ของพลทหารประจักษ์ แก้วคงธรรม และพลทหารประจักษ์ฯ พร้อมกับนายสุรพงษ์ กองจันทึก ประธานมูลนิธิผสานวัฒนธรรม เปิดเผยว่าวันที่ 4 มี.ค.ตนและประธานมูลนิธิผสานวัฒนธรรมจะเดินทางมายื่นหนังสือถึงอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อขอให้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง รับเป็นคดีพิเศษ และดำเนินคดีให้ถึงที่สุด กรณีพลทหารประจักษ์ แก้วคงธรรม ถูกทำร้ายร่างกายในกองพันทหารอากาศโยธิน กองบิน 56
สืบเนื่องจากเหตุการณ์เมื่อปี 2560 พลทหารประจักษ์ แก้วคงธรรม ได้สมัครเข้าเป็นพลทหารประจำการ ประจำปี 2560 ผลัด 2 ภายหลังเข้ารับการฝึก 3 เดือน กองพันทหารอากาศโยธิน กองบิน 56 จะให้พลทหารใหม่ทุกนายกลับบ้าน รอบแรกจำนวน 10 วัน เมื่อครบ 10 วัน พลทหารประจักษ์ฯ ไม่ได้กลับเข้ากองพันทหารอากาศโยธิน กองบิน 56 ตามกำหนด จนกระทั่งเมื่อวันที่ 27 ต.ค. 2561 จึงกลับเข้าไปประจำการยังกองพันฯ อีกครั้ง ตลอดระยะเวลาเข้าประจำการร่างกายสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง
จนกระทั่งวันที่ 1 พฤษภาคม 2562 ทางกองพันทหารอากาศโยธิน กองบิน 56 ได้แจ้งมายังครอบครัวแก้วคงธรรมให้ไปรับตัวพลทหารประจักษ์ฯ กลับบ้าน เมื่อนางปพิชญาฯ แม่ของพลทหารประจักษ์ฯ เดินทางไปถึงกองพันฯ พบว่า พลทหารประจักษ์ฯ บุตรชาย ถูกขังอยู่ภายในห้องขัง มีสภาพอิดโรย นอนจมกองปัสสาวะและอุจจาระ และไม่สามารถจำแม่ของตนได้ ตามร่างกายมีร่องรอยบาดแผล มีรอยฟกช้ำ มีบาดแผลที่ศีรษะ รวมทั้งศีรษะผิดรูปไปจากเดิม ไม่ได้สติ และไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ตามปกติ ต้องเข้ารับการรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลตรังตลอดมาจนถึงปัจจุบัน มีประวัติการรักษาอย่างต่อเนื่อง
แม่และพลทหารประจักษ์ฯ มีความประสงค์ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษสอบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริงถึงสาเหตุที่ทำให้พลทหารประจักษ์ฯ ได้รับบาดเจ็ดสาหัสดังรายละเอียดข้างต้น แม่ของพลทหารประจักษ์ฯ จึงได้ร้องทุกข์ เพื่อขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสาเหตุที่เกิดขึ้นกับพลทหารประจักษ์ฯ ให้มีการเรียกสอบปากคำบุคคลทั้งผู้บังคับบัญชาของหน่วยงานทหาร นายทหาร พลทหาร หรือบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องหรือรับรู้ รวมทั้งพยานหลักฐานทั้งปวงที่เกี่ยวกับการรับ การฝึก การลงโทษ และทำร้ายร่างกายพลทหารประจักษ์ฯ ตลอดจนเรื่องการรักษาที่โรงพยาบาลอย่างละเอียดและรับเป็นคดีพิเศษ ทั้งนี้หากพบว่ามีการกระทำความผิดขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดทุกนายให้ถึงที่สุด