06 ส.ค. 2564 เวลา 2:29 น.
หมอเฉลิมชัยเผยโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาครองกรุงเทพมหานครแล้ว 876.2% ชี้ไม่นานระบาดทั้งประเทศกลายเป็นสายพันธุ์หลัก ยันยังไม่พบสายพันธุ์ลมป์ด้าและเอฟซีลอน
รายงานข่าวระบุว่า น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ (หมอเฉลิมชัย) รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ส่วนตัว “ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย” โดยมีข้อความว่า
ไวรัสสายพันธุ์เดลตา (Delta) แพร่เร็วกว่าที่คิดไว้มาก ใช้เวลาเพียงเดือนเดียวครองกรุงเทพไปแล้ว 86.2% และต่างจังหวัด 70.9%
จากสถานการณ์การระบาดของโควิดระลอกที่สามของประเทศไทย ซึ่งเริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2564 โดยพบว่าเป็นไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์อัลฟาหรือของอังกฤษ ซึ่งมีความสามารถในการแพร่รวดเร็วกว้างขวางกว่าสายพันธุ์เดิม 70% จึงทำให้มีการติดเชื้อในช่วงเดือนเมษายนและพฤษภาคมค่อนข้างมาก คือมากกว่าระลอกที่สอง
แต่ในเดือนมิถุนายน ก็เริ่มพบไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์เดลตาหรืออินเดีย ซึ่งมีความสามารถในการแพร่ระบาดมากกว่าสายพันธุ์อัลฟ่าเพิ่มขึ้นไปอีก 60% จึงทำให้อัตราการแพร่ระบาดของโควิดระลอกที่สามเพิ่มขึ้นอย่างมาก จนกระทั่งวันนี้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มวันเดียวมากกว่า 20,000 รายแล้ว
จากการติดตามของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้เก็บตัวเลขไวรัสสายพันธุ์ต่างๆของการระบาดทั้งในกรุงเทพฯ ส่วนภูมิภาค และภาพรวมของประเทศไทย
พบว่าจากการเก็บตัวอย่างในช่วงวันที่ 24-30 กรกฎาคม 2564
ในเขตกรุงเทพฯ พบ
สายพันธุ์เดลตา 86.2%
สายพันธุ์อัลฟา 13.8%
ไม่พบสายพันธุ์อื่น
ในส่วนภูมิภาค พบ
สายพันธุ์เดลตา 70.9%
สายพันธุ์อัลฟา 27.9%
สายพันธุ์เบต้า 1.2%
โดยส่วนใหญ่พบในภาคใต้
ในภาพรวมของทั้งประเทศ พบ
สายพันธุ์เดลตา 78.2%
สายพันธุ์อัลฟา 21.2%
สายพันธุ์เบต้า 0.6%
นั่นหมายความว่า ในขณะนี้สายพันธุ์เดลตาได้ขึ้นมาเป็นสายพันธุ์หลักทดแทนสายพันธุ์อัลฟา ครบทั้งในกรุงเทพฯและส่วนภูมิภาคแล้ว
โดยถ้าเปรียบเทียบหนึ่งเดือนย้อนหลัง ระหว่างวันที่ 27 มิถุนายน กับ วันที่ 30 กรกฎาคม ในเขตกรุงเทพมหานคร
พบสายพันธุ์เดลตาเพิ่มจาก 32.4% เป็น 86.2%
สายพันธุ์อัลฟาลดลงจาก 67.5% เหลือเพียง 13.8%
ในส่วนภูมิภาค
พบสายพันธุ์เดลตาเพิ่มจาก 7.3% เป็น 70.9%
สายพันธุ์อัลฟาลดลงจาก 87.6% เหลือเพียง 27.9%
ในภาพรวมของทั้งประเทศ
พบสายพันธุ์เดลตาเพิ่มจาก 16.6% เป็น 78.2%
สายพันธุ์อัลฟาลดลงจาก 80.2% เหลือเพียง 21.2%
นั่นหมายความว่า ไวรัสสายพันธุ์เดลตา ใช้เวลาเพียงเดือนเดียวก็สามารถขึ้นมาเป็นสายพันธุ์หลักของประเทศไทยได้แล้ว และคาดว่าคงจะเป็นสายพันธุ์หลัก ที่จะครองพื้นที่ครบ 100% ในเวลาไม่นานนัก ทำนองเดียวกับประเทศอังกฤษ ทำให้อัตราการแพร่ระบาดของโควิดในระลอกที่สาม จะยังคงมีความรุนแรงต่อเนื่องต่อไป
โดยที่ในขณะนี้ ยังตรวจไม่พบไวรัสสายพันธุ์แลมป์ด้าและเอฟซีลอนแต่อย่างใด
ทั้งนี้ “ฐานเศรษฐกิจ” รวบรวมตัวเลขสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 (Covid-19) ในประเทศไทยวันที่ 6 สิงหาคม 64 จากศูนย์ข้อมูลโควิด-19 กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พบว่า
ติดเชื้อเพิ่ม 21,379 ราย
สะสมระลอกที่สาม 685,821 ราย
สะสมทั้งหมด 714,684 ราย
หายป่วย 22,172 ราย
สะสม 468,278 ราย
เสียชีวิต 191 ราย
สะสมระลอกที่สาม 5760 ราย
สะสมทั้งหมด 5854 ราย
สำหรับสถานการณ์การฉีดวัคซีนโควิด-19 ในประเทศไทยนั้น จากรายงานของศูนย์ข้อมูลโควิด-19 กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พบว่า มีการฉีดตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.-4 ส.ค. 64 สะสมจำนวน 18,961,703 โดส แบ่งเป็นผู้ที่ฉีดเข็มที่ 1 แล้วจำนวน 14,783,001 ราย และผู้ที่ฉีดครบ 2 เข็มจำนวน 4,178,702 ราย