ข่าวภาคค่ำ – สถานการณ์โควิด-19 ยังพุ่งสูงต่อเนื่อง และกระจายจากกรุงเทพมหานคร และปริมณฑลไปยัง 40 จังหวัดแล้ว ขณะที่ จังหวัดภูเก็ต รายงานพบนักท่องเที่ยวในโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ติดโควิด-19
ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 รายงานสถานการณ์ระบาดในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เทียบกับต่างจังหวัด สัดส่วนเป็น 50:50 แล้ว จากการที่แรงงานในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล กลับไปยังภูมิลำเนา ทำให้เชื้อแพร่กระจายไปใน 40 จังหวัด ได้แก่ ภาคอีสาน มากที่สุด 218 คน รองมาเป็นภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ จึงหวั่นว่าการระบาดสายพันธุ์เดลตาที่แพร่ได้เร็ว จะทำให้กลุ่มเสี่ยงในต่างจังหวัดติดเชื้อปอดอักเสบได้
ขณะที่ จังหวัดภูเก็ต รายงานการตรวจพบนักท่องเที่ยวในโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เป็นชายชาวสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1 คน ที่เดินทางเข้ามาเมื่อวาน (6 ก.ค.) และตรวจพบเชื้อที่สนามบิน สั่งกักตัวกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่มาด้วยกัน 13-14 คน ส่งตัวเข้าสถานที่กักตัวทางเลือก หรือ ALQ ส่วนคนขับรถตู้ที่ไปรับนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ ได้เข้ากักตัวตามมาตรการเฝ้าระวังควบคุมโรคแล้ว
สำหรับสถานการณ์โควิด-19 ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 6,519 คน รวมผู้ป่วยสะสม 301,172 คน และมีผู้เสียชีวิตอีก 54 คน เป็นคนไทย 49 คน และมีชาวเมียนมา 3 คน ชาวลาว 1 คน และชาวญี่ปุ่น 1 คน รวมผู้เสียชีวิตสะสม 2,387 คน เป็นคนไทย 2,317 คน และคนต่างชาติ 70 คน
ส่วนจำนวนผู้ป่วยที่รักษาอยู่ในโรงพยาบาลมีมากถึง 67,614 คน ในจำนวนนี้ อาการหนัก 2,496 คน ใส่เครื่องช่วยหายใจ 676 คน
ส่วนการพิจารณาใช้มาตรการล็อกดาวน์ เรื่องนี้ ผอ.ศปก.ศบค. ระบุว่า จะประเมินจากยอดผู้ติดเชื้อเป็นหลัก ประกอบกับข้อเสนอจาก กระทรวงสาธารณสุข อาจต้องพิจารณาเร็วขึ้น และเข้มข้นเฉพาะกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คาดว่า ศบค. จะนัดประชุมเพื่อหาข้อสรุปก่อนวันที่ 16 กรกฎาคมนี้
ต่อกันที่สถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลก สะสมมีจำนวนกว่า 185.3 ล้านคน เสียชีวิตแล้วกว่า 4 ล้านคน
ส่วน 10 ประเทศ ที่มีผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มขึ้นสูงสุด 3 อันดับแรก คือ บราซิล, อินเดีย และ อินโดนีเซีย