รถยนต์ เก๋งพุ่งมุดใต้ทัองรถพ่วง 22 ล้อ ที่บรรทุกน้ำอัดลมยี่ห้อดังดับคาที่ 2 ศพ เป็นหญิงสาวทั้งคู่
เมื่อเวลา02.30น.วันที่ 9 เมษายน 2565 ร.ต.อ.สมพร ปานจันทร์ รองสารวัตรเวรสอบสวน สภ.บ่อวิน รับแจ้งมีรถยนต์เก๋งพุ่งมุดใต้ท้องรถพ่วง 23 ล้อ ที่บริเวณใกล้กับสี่แยกไฟแดงอมตะซิตี้ จากถนนเส้น331-มุ่งหน้าบ้านหนองแขวะ ม.3 ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เบื้องต้นรับแจ้งมีผู้บาดเจ็บสาหัสติดอยู่ในซากรถ 2รายที่ใต้ท้องรถพ่วงต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ชีพ โรงพยาบาลแหลมฉบัง อาสาบรรเทาสาธารณภัยและอุบัติภัยเพียวเยี้ยงไท้ศรีราชา-หน่วยกู้ภัยศีลธรรมสมาคมบ้านบึง จุดบ่อวิน ร่วมกันนำเครื่องตัดถ่างเดินทางเข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบรถยนต์เก๋งยี่ห้อ ฮอนด้า ซีวิค สีขาวทะเบียน เพชรบูรณ์. พุ่งชนเข้าที่บริเวณใต้ท้องรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ ยี่ห้อ อีซูซุ หัวสี ขาว ส่วนหัวลากทะเบียนกรุงเทพมหานคร.และส่วนพ่วงทะเบียนกรุงเทพมหานคร ด้านหน้าของรถเก๋งคันดังกล่าวมุดเข้าไปอยู่ในใต้ท้องของรถพ่วง 22 ล้อคันดังกล่าวที่ขณะที่รถพ่วงข้ามทางแยกไฟแดง
เจ้าหน้าที่กู้ภัยทั้ง 2 หน่วยงานได้นำอุปกรณ์ตัดถ่างตัดช่วงประตูรถยนต์เก๋งใช้เวลานานกว่า 30 นาที จึงนำร่างผู้บาดเจ็บสาหัส ซึ่งเสียชีวิตแล้วในซากรถยนต์เก๋งออกมาได้ทราบชื่อต่อมา นางสาวเจนจิรา (สงวนนามสกุล)อายุ 27 ปี ชาวจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นคนขับรถยนต์เก๋งและ นางสาวกัญญาภััค(สงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี ผู้โดยสารที่นั่งมาเบาะหน้าด้วยกัน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ สอบสวนนายสมชาย ยงสกุล อายุ 49 ปี คนขับรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ ได้ให้การว่า ได้ขับรถออกจากโรงงานในนิคมอมตะซิตี้ระยอง เพื่อจะนำสินค้าซึ่งเป็นน้ำอัดลมยี่ห้อดังยี่ห้อหนึ่ง ไปส่งที่จังหวัดสมุทรสงคราม
เมื่อมาถึงบริเวณแยกไฟแดงอมตะซิตี้ ซึ่งเป็นสัญญาณไฟกระพริบตนได้มองแล้วไม่มีรถจึงขับรถเลี้ยวข้ามถนน มุ่งหน้าบ้านหนองแขวะ จังหวะนั้นรถเก๋งคันดังกล่าวซึ่งมาจากทางสัตหีบ มุ่งหน้าแยกปากร่วม พุ่งตรงมาลักษณะส่ายไปมาและไม่ชะลอความเร็ว พุ่งเสียบเข้ามุดช่วงกลางพ่วงของรถพ่วง 22 ล้อที่ขับมา และเบรคไม่อยู่จึงลากรถยนต์เก๋งข้ามถนนมาดังกล่าว และพบว่ามีผู้เสียชีวิตในรถยนต์เก๋งเป็นหญิงสาวทั้ง 2 คน ซึ่งทางตำรวจได้ให้เจ้าหน้าที่อาสาบรรเทาสาธารณภัยและอุบัติภัยเพียวเยี้ยงไท้ศรีราชา นำผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ศพ ส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลแหลมฉบังและรอญาติมารับไปบำเพ็ญกุศลต่อไป ทางตำรวจได้นำตัวคนขับรถพ่วง 22 ล้อไปสอบสวนที่ สภ.บ่อวิน โดยละเอียดอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัดต่อไป
