สช.ออกคำสั่งเพิกถอนโรงเรียนเอกชนนอกระบบในกรุงเทพฯ จำนวน 345 โรง ระบุไม่ได้ดำเนินกิจการโรงเรียนและไม่มีสภาพการเป็นโรงเรียนแล้ว หยุดดำเนินกิจการเกินกว่า 90 วัน โดยไม่แจ้งให้ผู้อนุญาตทราบ และไม่สามารถติดตามผู้รับใบอนุญาตโรงเรียน
นายอรรถพล ตรึกตรอง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) ได้ลงนามในคำสั่งสำนักงานคณะกรรมการการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ที่ 19/2564 เรื่องเพิกถอนใบอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียนนอกระบบ ในกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 2/2569
โดยมีเนื้อความว่า ด้วยพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน พ.ศ.2550 มาตรา 126 วรรคสอง กำหนดไว้ว่า เมื่อผู้อนุญาตตรวจพบว่าโรงเรียนนอกระบบแห่งใดหยุดดำเนินกิจการเกิน 90 วัน โดยไม่แจ้งเลิกกิจกรรมตามวรรคหนึ่ง ผู้อนุญาตมีอำนาจสั่งเพิกถอนใบอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียนนอกระบบดังกล่าวได้ ประกอบกับคำสั่งสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ที่ 258/2563 เรื่องแต่งตั้งคณะทำงานตรวจติดตามมาตรการรองรับในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 สั่ง ณ วันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ.2562
คำสั่งสำนักงานคณะกรรมการการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ที่ 263/2563 เรื่องแต่งตั้งคณะทำงานตรวจติดตามมาตรการรองรับในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พบว่ามีโรงเรียนนอกระบบจำนวนหนึ่งมิได้ดำเนินกิจการโรงเรียนและไม่มีสภาพการเป็นโรงเรียนแล้ว หยุดดำเนินกิจการเกินกว่า 90 วัน โดยไม่แจ้งให้ผู้อนุญาตทราบ และไม่สามารถติดตามผู้รับใบอนุญาตโรงเรียนให้มาดำเนินการเลิกกิจการโรงเรียนตามที่กฎหมายกำหนดได้
ฉะนั้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 126 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน พ.ศ.2550 จึงสั่งเพิกถอนใบอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียนนอกระบบ ในกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 2/2564 จำนวน 345 โรง ดังรายชื่อแนบท้ายคำสั่งนี้
อนึ่ง ผู้ซึ่งต้องปฎิบัติตามคำสั่งหรือได้รับผลกระทบจากคำสั่งของผู้อนุญาต หากไม่พอใจในคำสั่งดังกล่าว ให้มีสิทธิยื่นอุทธรณ์เป็นหนังสือต่อคณะกรรมการวินิจฉัยอุทธรณ์ได้ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้งคำสั่งจากผู้อนุญาตหรือวันที่ทราบคำสั่ง แล้วแต่กรณีเพื่อให้เป็นไปตามมาตรา 118 แห่งพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน พ.ศ.2550 ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2564 และลงนามคำสั่ง ณ วันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2564