



วัดอัปสรสวรรค์วรวิหารเป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร ชื่อเดิมคือวัดหมู เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ สมัยอยุธยา ตามตำนานเล่ากันว่าจีนอู๋เป็นผู้สร้างบนที่ดินที่เคยใช้เลี้ยงหมูมาก่อน เมื่อสร้างเสร็จ มีหมูมาเดินเพ่นพ่านอยู่เป็นจำนวนมาก ชาวบ้านจึงเรียกว่า วัดหมู ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 3 ทรงบูรณปฏิสังขรณขึ้นใหม่อีกครั้ง และพระราชทานนามว่า วัดอัปสรสวรรค์ โดยได้พระราชทานพระพุทธรูป ปางฉันสมอ หรือ “หลวงพ่อสมอ” ให้เป็นพระประธานและประดิษฐานอยู่ภายในพระอุโบสถ พระพุทธรูปปางฉันสมอเป็นพระพุทธรูปที่มีลักษณะแบบจีน พระหัตถ์ซ้ายถือผลสมอ ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นพระพุทธรูปที่งดงามเป็นสง่า เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวนครหลวงพระบาง และเวียงจันทร์เป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นพระพุทธรูปเก่าแก่มาจากเมืองเวียงจันทร์ เดิมที่ประดิษฐานไว้ในพระวิหารพระนาก ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หลังจากบูรณปฏิสังขรณ์วัดอัปสรสวรรค์ จึงพระราชทานหลวงพ่อฉันสมอมาประดิษฐานที่วัดนี้จนถึงปัจจุบัน โครงสร้างของพระอุโบสถและพระวิหาร ยังคงเดิมตามศิลปะจีน โดยเลียนแบบวัดราชโอรสฯ เมื่อเข้าไปภายในพระอุโบสถ มีพระประธานจำนวน 28 องค์ เป็นพระพุทธรูปหล่อปางมารวิชัย ซึ่งมีความเหมือนและมีขนาดเท่ากันทั้งหมด ประดิษฐานอยู่บนชุกชีด้วยกัน พระพุทธรูปเหล่านี้มีพระนามจารึกไว้ที่หน้าฐานทั้ง 28 องค์ ได้แก่ พระตัณหังกร อพระเมธังกร พระสรณังกร พระทีปังกร พระโกณฑัญญะ พระมังคละ พระสุมนะ และ พระโคดม เป็นต้น อีกทั้งยังมีหอพระไตรปิฎก ซึ่งเป็นศิลปะสมัยกรุงศรีอยุธยา เปิดให้นักท่องเที่ยวหรือผู้สนใจเข้าไปชมความคลาสสิกงดงามได้ทุกวัน ที่ตั้ง : แขวงปากคลองภาษีเจริญ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ สามารถเดินทางโดยเรือล่องมาตาม คลองบางกอกใหญ่ เปิดให้เข้าชมได้ทุกวันโดยไม่เสียค่าธรรมเนียม ตั้งแต่ 07.30-17.30 น.